ปั่นเที่ยวถนนหิมาลัย รอนแรมทางไกลบนเขา สวย หนาว ขาว ขาว สูง (Srinagar-Leh-Manali Part 2)
Part 2 … Leh to Manali (NH3 Road)
Day11: 22/07/2019 Leh(3563m)- Choglamsar(3235m) –Shey(3250m) -Thikse(3243m) –Karu(3445) –Upshi(3417m) distance 41 km. วันนี้ร่ำลาเมืองเลห์ เมืองค้าขายในประวัติศาสตร์ของทางสายไหมเข้าสู่ถนน nh3 มุ่งสู่ทิศทางของมะนาลี วิวจะมองได้กว้างไกลกว่าสวยคนแบบกับเส้นเดิม ค่ายทหารเยอะจัง คืนนี้นอนอัพชิ
Day12: 23/07/2019 Upshi(3417m) –Lato(4021m) –Rumtse(4219m) distance 70 km.
เข้าสู่เขตไร้สัญญาณโทรศัพท์ หมู่บ้านพุทธสวยๆ น่าพัก คิดถึงนอซังและริกซิง @Rumtse village ยามเย็นที่หมู่บ้านรัมเซ่ หลังจากพระอาทิตย์หายไปความหนาวจะเข้ามาแทนในตัวบ้านจะก่อไฟ นี่เป็นหลังบ้านของริกซิง นอซัง คุณยายของเค้ากำลังรีดนมวัว แน่นอนครับว่าพรุ่งนี้เช้าเราต้องมีโยเกิตสดๆ กินแน่นอน
Day 13: 24/07/2019 Rumtse(4219m) -Taglangla Pass(5300m) –Dubring(4620m) distance 66 km., Tanglang La
เป็นจุดสูงสุดในถนน NH3 อีกทั้งเป็นถนนที่สูงที่สุดในความดูแลของหน่วยงาน BRO(Border Road Organization)และเป็นถนน Motorable มันเป็นถนนสายที่สูงที่สุดแห่งที่ 2 รองจาก Khardungla ขั้นกลางระหว่างหมู่บ้าน Rumtse และหมู่บ้าน Derring ปั่นกันเหนื่อยทีเดียว ออกจากรัมเซ่แต่เช้ามืดถึงยอดพาสราวบ่ายสามโมง ใกล้ๆยอดข้างถนนเป็นน้ำแข็งทั้งสองข้างทาง จากนั้นไหลลงยาวๆ
Day 14: 25/07/2019 Dubring(4620m) -Pang (4522m) distance 32 km.
ถนนตรงผ่ากลางทุ่งเหมือนในฉากหนัง MadMax สองข้างทางเป็นทุ่งลอยฟ้า ชาวบ้านร่อนเร่เลี้ยงฝูงแกะ
Day 15: 26/07/2019 Pang(4522m) – Lachulungla Pass (5077m) -Whisky nalah(4785m) distance 29 km.
เขาลาชูลังโหดมากๆ เส้นทางเหี้ยมเป็นออฟโร้ด หากไม่เทียบความสูงผิวถนนขึ้นเขาลูกนี้ยากที่สุดเท่าที่เจอมา ที่วิสกี้นารากางเต็นท์ฟรีใกล้ร้านอาหารกลางคืนหนาวจนฟรายชีทของหลังคาเต็นท์ที่เรากางเกล็ดน้ำแข็งเต็มไปหมด
Day 16: 27/07/2019 Whisky nalah(4785m) -Nakeela Pass(4937m)- Gata loop(4222m)-Sarchu(4408m) distance 55 km.
จุดที่น่าสนใจบนเส้นทางในวันนี้คือ การได้ขึ้นบนยอดนากีลาพาสพร้อมกันทั้งทีมครบสามคน ซึ่งปกติความเร็วเราจะไม่ทันกัน อีกจุดคือการดิ่งลงเขาผ่าน Gata loop ที่มีชื่อเสียงของที่นี่ค้างคืนด้วยการกางเต็นท์สวยๆที่ซาร์ชู
Day 17: 28/07/2019 Sarchu(4408m)- passport check point- Baralachala Pass(4918m) –Zingzingbar(4067m) distance 47.8 km.
ตื่นเช้าขึ้นมาหนาวไม่มากยังไม่มีเกร็ดน้ำแข็งเกาะเต็นท์ มุดออกจากเต็นท์ดูเทอร์โมมิเตอร์ของพี่รักษ์วัดได้ 9 องศาเซนเซียส ภัทรต้มกาแฟแจกก่อนจากเมืองซาร์ชูจะมีด่านตรวนหนังสือเดินทางถนน NH3 ช่างทางขึ้น บาราลาชาลาพาสเป็นก้อนหินกรวดแม่น้ำขนาดใหญ่ ปั่นไม่ได้ต้องเข็นและมี Water crossing ที่น้ำไหลเชี่ยวลึกท่วมล้อรถ ใหญ่ ยาวสองฝั่งถนนก่อนขึ้นยอดและตอนดิ่งลงถึงซิงซิงบาร์เป็นผนังน้ำแข็ง หนาวและแปลกตาวันนี้ถึงที่พักสองทุ่ม
Day 18: 29/07/2019 Zingzingbar(4067m) -Patseo(3751m) –Darcha (3320m) –Jispa(3255m) –Keylong(3145m) distance 54.5 km.
เส้นทางวันนี้สวย ผ่านหมู่บ้านพุทธสวยๆ ที่ Jispa เป็นเมืองท่องเที่ยวมีที่พักริมน้ำของเอกชนไว้รับนักท่องเที่ยวมากมาย ตอนค่ำเราปั่นยิงยางเข้าพักโรงแรมที่เมืองคีย์ลอง ที่นี่มีสัญญาณ Wi-Fi ทำให้เราสามารถติดต่อกลับมาเมืองไทยได้อีกครั้ง ที่ดาวอังคารหนาวมาก ไม่ได้อาบน้ำมา7 วันแล้ววันนี้เพิ่งมีสัญญาณเน็ตปั่นจนจำไม่ได้ว่าปั่นมากี่วันแล้ว อีกสามวันถึงมะนาลี แน่นอน
Day 19: 30/07/2019 Keylong(3145m)- Thandi(2922m) –Sissu(3086m) distance 35 km.
วันนี้เส้นทางผ่อนคลาย ไม่ชันมาก ผ่านหมู่บ้าน Thandi แวะทานมื้อเที่ยงเราสังเกตเห็นชาวบ้านอิสลามและพุทธอยู่ร่วมกันอย่างน่ารักมีมิตรภาพสวยงาม เส้นทางก่อนเข้าเมือง Sissu งดงามไปด้วยภูเขาที่เหมือนโดนเกาะสลักด้วยแรงลมและหิมะกัดกร่อนดังงานศิลปะจากพระเจ้า เรากางเต็นท์นอนสวยๆ ที่เมืองนี้
Day 20: 31/07/2019 Sissu(3086m) –Khoksar(3152m)-Graphu(3405m) distance 28 km.
ถนนวันนี้สวยงาม สองข้างทางมีชาวบ้านเลี้ยงแกะตามไหล่เขา ค่ำคืนเราเลือกพักในพื้นที่ร้านอาหาร Dhaba ของคุณชัวเรส ที่แกรมพูเราฉลองด้วยการกางเต็นท์นอนใกล้ร้านอาหารที่ตีนเขาก่อนขึ้น Rohtang la เราจะไม่ให้ La นี้หนีไปไหน. เราจะเฝ้าที่ตีนเขา เป็น La สุดท้ายที่เราจะพิชิต เป็นค่ำคืนที่นอนท่ามกลางสายฝนแต่เต็นท์ที่เรานำมาก็ยังสามารถทำให้เรานอนอุ่นได้อย่างสบาย
Day 21: 1/08/2019 Graphu(3086m)- Rohtang Pass(3988m) –Manali(3303m)
ค่ำคืนแห่งการฉลองปิดทริป ที่ Manali พวกเราสามารถผ่าน 9 -La มาด้วยความปลอดภัย ตั้งแต่ NH-1,NH-3 มอนย้อนกลับไปเราข้ามคลื่นภูเขามาด้วยแรงขาปั่นเกือบร้อยลูกกันเลย ตำจอกฉลองส่งท้ายกันด้วย เบียร์ ไวน์อินเดีย และชีสบอล คืนพิเศษคืนนี้ไม่ใช่กินอิ่ม นอนอุ่นแต่หากเป็นเราสามคนที่ยังคงมานั่งคุยกันและถกกันเหมือนเดิมทุกประการ อดคิดถึงพี่อ้วนไม่ได้ถ้ามาต่อด้วยกันคืนนี้คงพิเศษมากกว่านี้
โดยส่วนตัวพวกเราไม่เคยคิดเรื่องการปั่นเที่ยวถนนแถบเทือกเขาหิมาลัยมาก่อนแต่เรื่องราวของดินแดนรอบๆ หิมาลัย ชมพูทวีปรู้จักผ่านหนังการ์ตูนอาลาดินในวัยเด็กจนโตเป็นผู้ใหญ่วัยกลางคน การรับรู้ถึงเรื่องราวเรื่องเล่าผ่านสื่อโซเชียลที่คนหลากหลายรูปแบบทั่วโลกได้บันทึกไว้และมีหลายๆอย่างที่จังหวะมันพร้อม ขับให้เราได้มาเพื่อปั่นจักรยานเป็นรูปแบบการเดินทางที่ต้องการละเมียดสองข้างทางไปช้าๆในเส้นทางหิมาลายาโร้ด ที่นี่ไม่ได้สูงที่สุดแต่มันคือที่สุดที่ตั้งอยากจะมาเยือน มันจึงเป็นเสมือนเอฟเวอเรสต์ในความตั้งใจปั่นของพวกเรา ที่เป็นวิมานสถิตแห่งทวยเทพ เทือกเขาที่ขาวโพลนด้วยน้ำแข็งและหิมะปกคลุมหนาวเย็นชั่วนาตาปี เทือกเขาที่เชื่อมโยงจิตวิญญาณและศรัทธามาหลายชั่วอายุคนแห่งตะวันออก เราพักร่างทิ้งตัวที่โรงแรมน่ารักที่เป็นมิตรกับนักเดินทาง คุณซิมา ผู้จัดการโรงแรมจอห์นลอร์ดมะนาลีเป็นคนชอบท่องเที่ยวและชื่นชอบเมืองไทยเธอกลายเป็นเพื่อนกับพวกเรา บ่ายๆเดินเล่นซื้อธงมนต์และของฝากที่ย่านมอลของเมืองมะนาลี ช่วงเย็นของวันนั้นเราบอกลาเมืองมะนาลี ขึ้นรถประจำทางเข้ากรุงนิวเดลีย์และนั่งเครื่องกลับกรุงเทพเมืองฟ้าเมืองสวรรค์สุดเร้าใจกว่าหิมาลัยของจริงที่บ้านเรา
ขอขอบคุณเพื่อนร่วมทาง พี่รักษ์ น้องภัทร พี่อ้วน ที่ต่างดูแลกันและร่วมเป็นสีสันของการเดินทางและขอบคุณโลกสวยๆใบนี้ ที่ให้สิ่งประทับใจดีดีจากการเดินทางครั้งนี้ที่ต้องจดจำไปอีกนาน ที่ขอบคุณที่สดคือคุณภรรยาสุดเลิฟที่อนุญาตให้ฝาชีออกไปกางปีกผจญภัยสุดขอบฟ้า…
WORDS/PICS BY พี่ซาฯ ซาเล้งสีแดง Seplayboy Touring/Fast Bikes Thailand Magazine Issue 081