H SEM รถจักรยานยนต์ EV ที่มีดีเกินคาด!
เป็นที่ทราบกันดีว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีที่ใช้ในการขับเคลื่อนยานยนต์นั้นจะมาจากเครื่องยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันปิโตรเลียมเป็นหลัก และปิโตรเลียมนั้นเป็นพลังงานที่จำกัด ปริมาณสำรองก็ลดลงเรื่อยๆ รวมถึงมีแนวโน้มว่าจะหมดไปในอนาคต เรื่องของพลังงานทดแทนสำหรับยานยนต์จึงเป็นสิ่งที่ทั่วโลกมีความตื่นตัว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของ น้ำมันดิบที่จะนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงซึ่งมีราคาแพงและเริ่มหายากยิ่งขึ้น, การเกิดมลพิษที่ทุกค่ายฯ ต่างร่วมกันแก้ไขมาอย่างต่อเนื่อง ความสิ้นเปลืองในการดูแลรักษา และค่าการจัดการที่ค่อนข้างสูง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ผู้ผลิตยานยนต์ต่างให้ความสำคัญ ควบคู่กับแนวคิดในการหาพลังงานทดแทนหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น ก๊าซธรรมชาติ เอทานอล ไฮโดรเจน ฯลฯ โดยพลังงานทดแทนอย่างหนึ่งที่มีการค้นคว้า พัฒนากันมานานแล้ว ราคาไม่แพงและขับเคลื่อนยานยนต์ได้ดีไม่ต่างจากน้ำมันเชื้อเพลิงมากนักคือ พลังงานไฟฟ้า ซึ่งสามารถผลิตได้จากหลายกรรมวิธี
ที่ผ่านมาเราก็ได้เคยเห็นแบรนด์ต่างๆ ที่ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าออกมาสู่ตลาดและต้องยอมรับว่า ยังไม่ได้รับความนิยมมากมายนัก ด้วยหลากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็นด้านสมรรถนะและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ซึ่งในวันนี้มี แบรนด์ผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ได้ทำการเปิดตัวรุ่นใหม่อย่างเป็นทางการและเชื้อเชิญสื่อมวลชนสายรถจักรยานยนต์ให้ไปสัมผัสทดลองสมรรถนะกัน ได้แก่ แบรนด์ H SEM ซึ่งนับเป็นค่ายที่ได้คร่ำหวอดกับการผลิตรถ EV หรือผลิตภัณฑ์ด้านนี้มาโดยตลอด จากการผลิตและจำหน่ายรถกอล์ฟไฟฟ้า รถไฟฟ้าอเนกประสงค์ รถสามล้อไฟฟ้า รถสามล้อเครื่องยนต์และรถสองล้อไฟฟ้า คือ H SEM Motor ( เอช เซม มอเตอร์ ) บริษัทนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร? แล้วทำไมถึงเปิดตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามากถึง 3 รุ่น 4 โมเดล แถมยังเชื้อเชิญให้ไปพิสูจน์สมรรถนะกันแบบตัวเป็นๆ เรามาลองดูกันหน่อยครับ…
คุณวันชัย ลี้นะวัฒนา
เอช เซม มอเตอร์ เป็นบริษัทในเครือของ ฮั้วเฮงหลี กรุ๊ป ซึ่งดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 42 ปี จากการเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายเครื่องจักรกลการเกษตร และขยายเป็นตัวแทนจัดจำหน่ายจักรยานยนต์ รถยนต์ สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง และอื่น ๆ อีกมากมาย จากประสบการณ์ดังกล่าว จึงได้ขยายธุรกิจใหม่ด้านพลังงานไฟฟ้า นำไปสู่ธุรกิจผู้ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้าประเภทยานยนต์ EV ภายใต้แบรนด์ H SEM Motor ซึ่งผลิตด้วยฝีมือของคนไทย
ในช่วงระยะเวลากว่า 10 ปี ที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจากประเทศจีนเข้ามาจำหน่ายในบ้านเรา ณ เวลานั้นภาพลักษณ์ของรถประเภทนี้ยังมีบทบาทกับสังคมเมืองไม่มากและยังไม่ค่อยดีนัก ซึ่งอาจเกิดจากความรีบร้อนที่จะนำเอาผลิตภัณฑ์ที่ยังมีการพัฒนาแบบไม่มีหลักการเท่าไหร่นักมาจำหน่าย เช่น รูปลักษณ์การออกแบบไม่สวย,ไม่แข็งแรง,กำลังของแบตเตอรี่ไม่เสถียร, ระบบของการใช้งานยังไม่ครอบคลุม และไม่มีการบริการหลังการขายที่เป็นรูปธรรม ฯลฯ ครั้งนี้จึงนับเป็นหนึ่งในแรงผลักดันที่ทำให้เราอยากไปพิสูจน์ว่า จากวันนั้นถึงวันนี้ความชัดเจนด้านพลังงานทางเลือกนั้นจะพัฒนาขึ้นจนออกมาเป็นรถจักรยานยนต์ไร้มลพิษที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานของเราได้มากน้อยแค่ไหน…
ในการนี้ คุณวันชัย ลี้นะวัฒนา กรรมการผู้จัดการ พร้อมผู้บริหารระดับสูง และเจ้าหน้าที่วิศวกร ของ เอช เซม มอเตอร์ ได้ร่วมให้ข้อมูลของผลิตภัณฑ์ พูดคุยและตอบข้อซักถามอย่างเป็นกันเอง นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่วิศวกรที่ผ่านการอบรมมีความชำนาญด้านนี้มาอธิบายถึงตัวผลิตภัณฑ์ให้เราฟังอย่างละเอียด คงต้องบอกว่าสิ่งสำคัญที่เป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนในรถไฟฟ้านั้นอาจมีน้อยกว่ารถจักรยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์น้ำมันเชื้อเพลิงแบบสันดาป นอกจากนั้นยังมีน้ำหนักเบา และมีค่าการจัดการถูกกว่ามากจนทำให้ผู้ใช้ไม่ต้องวุ่นวายอะไรเยอะเลย หลัก ๆ คือ มอเตอร์ไฟฟ้าสมรรถนะสูงที่ไม่ต้องการการดูแลรักษา รวมถึงยังสามารถทำงานได้แม้ตัวมอเตอร์จะจมอยู่ในน้ำตามที่ทาง H SEM ทดสอบให้ดู (ดังนั้นเวลาน้ำท่วมน่าจะยังวิ่งได้ดีไม่มีปัญหา) , แบตเตอรี่พลังแรง , ระบบเบรกและระบบกันสะเทือนที่ดี ปิดท้ายด้วยรูปลักษณ์การออกแบบที่สวยโดดเด่นไม่แพ้รถจักรยานยนต์ทั่วไป ซึ่งทำให้ผมค่อนข้างประหลาดใจเมื่อได้เห็นครั้งแรกและอยากจำแนกรายละเอียดให้ทุกท่านเห็นกันชัด ๆ ดังนี้
รูปลักษณ์
การออกแบบนั้นแตกต่างจากเมื่อ 10 ปี ที่ผ่านมา รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของ H SEM ทั้ง 3 รุ่น 4 โมเดล CIAO, MOBILA S, MOBILA G และ WING มีดีไซน์ที่สวยงาม, น่ารัก และกะทัดรัด ด้วยรูปลักษณ์ที่เข้ากับยุคสมัยพร้อมสีสันสดใส ซึ่งเป็นจุดนำสายตาของการตัดสินใจอันดับแรก ทุกรุ่นจุผู้โดยสารได้ 2 ที่นั่ง รับน้ำหนักบรรทุกได้ถึง 150 กก. มีความแข็งแรงด้วยโครงสร้างเหล็ก ทันสมัยด้วยเรือนไมล์แบบดิจิตอล พร้อมไฟ LED รอบคัน และใช้ล้ออลูมิเนียมอัลลอยด์ ซึ่งถ้าพูดกันถึงเรื่องความสวยและความเรียบร้อยด้านงานประกอบจุดนี้ผ่านฉลุย อาจกล่าวได้ว่าการออกแบบนั้นค่อนข้างมาในแนวของสกู๊ตเตอร์เรโทรที่ผสมผสานความทันสมัยและกำลังอินเทรนด์
H SEM MOBILA G
ระบบขับเคลื่อน หัวใจสำคัญของสมรรถนะ
เราคงทราบกันดีว่า หัวใจของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ก็คือ มอเตอร์ มันไม่ใช่แค่มอเตอร์ไฟฟ้าธรรมดา แต่มันเป็นมอเตอร์ที่ออกแบบมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ สำคัญคือต้อง แข็งแรง,ทนทาน,ระบายความร้อนได้อย่างรวดเร็ว,ให้กำลังงานสูง,เสถียร และแม่นยำ หัวใจหลักของรถไฟฟ้าก็จะมีลักษณะคล้าย ๆ กับรถใช้เชื้อเพลิงโดยมีการควบคุมระบบด้วยอิเล็กทรอนิกส์ 3 จุดคือ 1. มอเตอร์ 2. กล่องควบคุม 3. คันเร่ง มอเตอร์ไฟฟ้าแบบนี้ส่งกระแสไฟเพื่อการขับเคลื่อนแบบกระแสตรง DC (Direct current) ใช้มอเตอร์ 2 แบบคือ 1. Hub Motor ในรุ่น CIAO, MOBILA S และ WING มอเตอร์ชนิดนี้ไม่มีเกียร์จะอยู่ตรงจุดศูนย์กลางของล้อโดยไม่มีแปลงถ่านซึ่งราคาค่อนข้างสูง โดยจะรับคำสั่งจาก Hall sensor ทั้งสามตัวตรงสู่มอเตอร์ตรงจุดศูนย์กลางวงล้อ 2. เกียร์มอเตอร์ Gear Motor ในรุ่น MOBILA G มอเตอร์แบบนี้จะมีเกียร์อยู่ภายใน ซึ่งเป็นอัตราทดทำให้เกิดแรงบิดดีกว่า ขับเคลื่อนกำลังเร่งรอบต้นเร็ว, ลดแรงสะเทือน หรือกระพือของน้ำหนักการออกตัวที่นิ่มนวล เบาแรงขนาดเล็กกะทัดรัด สามารถรับน้ำหนักได้ดีพร้อมเปลี่ยนอัตราทดได้เร็วยิ่งขึ้นตามต้องการ ซึ่งมอเตอร์ทำงานในลักษณะ Sink และ Source คือปรับเป็น Low และ High ได้ มอเตอร์ที่ใช้เป็นของ Bosch แบบ DC 72v 3000w ส่วนในรุ่น CIAO ใช้มอเตอร์ DC 60V 2000W และ MOBILA S กับ WING ใช้ DC 72V 3000W
เกียร์มอเตอร์ในรุ่น MOBILA G
รุ่น CIAO น้องเล็กสุดลองแช่น้ำแล้วปั่นให้ดู ผ่านฉลุย
แบตเตอรี่
แบตเตอรี่คือจุดสำคัญที่มีความละเอียดอ่อนและมีการทำงานแบ่งอนุภาคอย่างชัดเจน แน่นอนว่ามันจะต้องเป็นแบตเตอรี่ที่ได้มาตรฐาน, คุณภาพสูง,แข็งแรง มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน รถจักยานยนต์ไฟฟ้า H SEM เลือกใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมสองความจุกำลังไฟ คือ 72V20AH และ 60V20AH ลักษณะเป็น Socket ที่สามารถยกออกและเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ได้ทันที ขณะที่แบตเตอรี่ส่งกำลังไฟฟ้าวิ่งได้ 60 กม. ต่อการชาร์ตไฟบ้านหนึ่งครั้งด้วยระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง แต่หากแบตเตอรี่ยังไม่หมดก็จะใช้เวลาชาร์ตสั้นกว่า เหมือนกับแบตเตอรี่โทรศัพท์มือถือ จุดเด่นอีกอย่างนอกจากเป็นแบตเตอรี่แบบลิเธียมแล้วโครงสร้างของแบตฯ ยังถูกแบ่งการทำงานแบบอนุกรมซึ่งจะให้การส่งพลังงานเป็นกรอบซึ่งเมื่อไฟฟ้าหมดหนึ่งกรอบ กรอบต่อไปก็จะส่งพลังงานไม่ได้ปล่อยออกมาทั้งหมดในเวลาเดียวกัน ผลคือทำให้พลังงานไฟฟ้าเสถียร,มั่นคง,แม่นยำ และทนทานยาวนาน ซึ่งมันก็สมกับราคาของมัน
แบตมีหูหิ้วถอดออกมาแล้วหิ้วไปชาร์จไฟบ้านได้เลย
ระบบเบรก
ระบบเบรกคือสิ่งสำคัญสำหรับรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อมันไม่มีเครื่องยนต์เอนจิ้นเบรกที่เกิดจากการลดอัตราทดของเกียร์ต่ำเลยหายไป ระบบเบรกจึงกลายมาเป็นจุดสำคัญสำหรับการหยุดความเร็วและหยุดนิ่ง ระบบเบรกของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า H SEM ทุกรุ่นเลือกใช้ระบบเบรกแบบดิสก์เบรกทั้งหน้า-หลัง ที่ให้สมรรถนะ และประสิทธิภาพดีเกินความคาดหมาย เมื่อเทียบจากความเร็วสูงสุดที่รถแต่ละรุ่นทำได้
ดิสก์เบรกหน้า-หลัง และมอเตอร์แบบ Brushless Hub-Motors ในรุ่น CIAO
ระบบกันสะเทือน
ระบบกันสะเทือนถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการรองรับความเสถียรในการขับขี่ และความเร็วที่เกิดขึ้นบนเส้นทางเพื่อให้รถนั้นวิ่งได้นุ่มนวล คล่องตัว สะดวกสบายมากที่สุด ระบบกันสะเทือนของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ H sem ทุกรุ่นทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ สมรรถนะดี รองรับน้ำหนักผู้ขับขี่ และน้ำหนักรวมของโครงสร้างทั้งหมดจนส่งถ่ายความเกาะถนนสู่ยางโดยไม่ทำให้ยางนั้นรับภาระหนัก กระจายแรงและซับแรงสะเทือนได้ค่อนข้างสมบูรณ์ทีเดียว ซึ่งระบบกันสะเทือนทั้งหน้า-หลัง นั้นเป็นแบบโปรเกรสซีฟ
H SEM MOBILA G สีเทาดูหล่อเข้ม
สัมผัส และทดสอบสมรรถนะ
การทดสอบสมรรถนะ แบ่งไว้สองลักษณะ คือ ทดสอบในสนามแบบ Riding course ที่จำลองการขับขี่ด้วยโค้งหลากหลาย และขึ้นเนินลาดชัน ทั้งหมดวางโครงสร้างเพื่อให้ทราบถึงความคล่องตัวในมุมเลี้ยวต่าง ๆ,ระบบกันสะเทือน,ระบบเบรก,กำลังเครื่องยนต์ในขณะดันขึ้นทางลาดชันและอัตราเร่งต้นที่ต้องการแรงบิดสูงสุด และการทดสอบบนถนนซึ่งทดสอบความเร็ว,ความเสถียร,ระบบเบรก,อัตราเร่ง,โครงสร้าง และความนุ่มนวล ซึ่งเป็นการทดสอบที่บ่งบอกถึงสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า H SEM ได้ครอบคลุมทีเดียว
เริ่มจาก MOBILA S กันก่อน
ผมเริ่มการทดสอบจากรุ่น MOBILA S, MOBILA G,CIAO และ WING ตามลำดับ สิ่งแรกที่ประทับใจคือการออกแบบ,สีสัน และโครงสร้างที่มองว่ามันผสมผสานยุคสมัยเข้าด้วยกัน คือเรโทรและความทันสมัย ด้วยรูปลักษณ์และงานประกอบที่ทำให้ภาพลักษณ์ของรถไฟฟ้าในอดีตที่ผ่านมาหายไปจนหมด คือมันสวยนะ! เมื่อเปิดสวิตช์กุญแจแน่นอนว่าเราไม่ต้องกดสวิตช์สตาร์ทเครื่องยนต์และไม่มีเสียงการทำงาน ตรงจุดนี้อาจทำให้รู้สึกไม่คุ้นเคยอยู่เล็กน้อย แต่ด้วยความที่หน้าตาของมันแทบไม่ต่างจากรถเล็กที่เราใช้กันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันเลย มันจึงไม่รู้สึกแปลกหรือแตกต่างอะไรมาก แค่มันไม่ได้ใช้เครื่องยนต์สันดาป นอกนั้นก็แทบจะเหมือนกับรถจักรยานยนต์ที่เราสัมผัสขับขี่กันมา และจะยิ่งดูเข้าทีขึ้นไปอีก หากทราบว่าแบตเตอรี่นั้นชาร์จเต็มด้วยไฟบ้านเสียค่าไฟเพียงแค่ 7 บาท และวิ่งได้เป็นระยะทาง 60 กิโลเมตร โดยไม่สร้างมลพิษ ฝุ่นควัน หรือทำให้โลกของเราร้อนขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
โครงสร้างที่ออกแบบมา ไม่ว่าจะเป็นความสูง, ความกว้างของรถ, ตำแหน่งของก้านเบรกทั้งสองข้าง,การวางเท้า,เบาะนั่ง และวิสัยทัศน์ในการมองไม่ได้แตกต่างจากรถจักรยานยนต์เชื้อเพลิงเลยแม้แต่น้อย เมื่อเปิดสวิตช์ผมก็ปรับระดับความเร็วไปที่ High หรือระดับ 3 ซึ่งเร็วสุดทันที แน่นอนมันอาจรู้สึกเซนซิทีฟไปบ้างเมื่อแตะคันเร่งเพราะกำลังงานนั้นมาทันทีโดยไม่ต้องรอรอบเครื่องยนต์ และหากแตะเบรกไว้มอเตอร์ก็จะไม่ทำงาน แรก ๆ อาจตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อชินกับคาแรคเตอร์ของรถแล้ว จะรู้ได้ทันทีว่า ระบบป้องกันความปลอดภัยนั้นอยู่ที่ การทดรอบคันเร่งมากว้างเพื่อให้ผู้ขับขี่ได้ตั้งหลัก เตรียมความพร้อม แต่เมื่อชินกับมันแล้วก็ไม่แตกต่างกันเลย เราทำความเร็วกันตั้งแต่ออกจากโรงงานเพราะชุดแรกทดสอบสมรรถนะด้านนอกด้วยระยะทางการใช้งานจริงกว่า 10 กม.
สัมผัสแรกอย่างที่กล่าวรูปลักษณ์และโครงสร้างนั้นไม่ได้แตกต่างกับรถเครื่องยนต์เลย แถมยังมีความเบาที่ส่งผลให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้นอีกด้วย รูปลักษณ์ของมันถูกออกแบบให้ลดแรงเสียดทานของกระแสลมพอดู ซึ่งจุดนี้ส่งผลให้รถนั้นมีความเร็วและเสถียรเมื่อเคลื่อนตัว ผมใช้ความเร็วสูงสุดที่ 63 กม./ชม. ในรุ่น MOBILA S ซึ่งตรงจุดนี้หากใช้ขับขี่เดินทางในเมืองแบบสบาย ๆ ไม่เร่งรีบ ถือว่าค่อนข้างพอเพียง ระบบเบรกนั้นดีเกินความคาดหมาย โดยเฉพาะเวลาเบรกเร็ว ๆ แบบ ฉุกเฉินสามารถสั่งงานได้ตามต้องการทั้งหน้า-หลัง ส่วนระบบกันสะเทือนอาจมีความกระด้าง และแข็งในบางช่วงบางจังหวะ แต่สิ่งที่ผมเข้าใจคือ รถน้ำหนักเบารวมน้ำหนักทั้งหมดพร้อมผู้ขับขี่อาจอยู่ที่ประมาณ 150 กก. น้ำหนักรถ 80 กก. รวมแบตเตอรี่ กันสะเทือนถ้านิ่มเกินไปก็จะทำให้รถแกว่ง ย้วย ไม่สนุกในการควบคุม หากแข็งมากเกินไปก็จะไม่นุ่มนวล แต่กันสะเทือนของ H SEM นั้นอยู่ในระหว่างตรงกลางจุดนี้จึงเรียกได้ว่าเหมาะสมกับความเร็วและโครงสร้างของรถ บิดกันหมดก็ยังคงที่
เปลี่ยนมาขี่ MOBILA G แล้วครับ
แต่ต้องยอมรับว่าการใช้แบตเตอรี่นั้นพลังไฟฟ้าจะถูกใช้และค่อย ๆ ลดลงขึ้นอยู่กับการบิดคันเร่งเช่นกัน ขี่เร็วใช้ไฟเยอะ ขี่ช้าใช้ไฟน้อย ตอนนี้มอเตอร์ทั้งสองแบบยังไม่มีการเปลี่ยนแรงเฉื่อยของรถให้เป็นพลังงานไฟฟ้าและชาร์จกระแสไฟกลับเข้าไปยังแบตเตอรี่เวลาใช้เบรกหรือยกคันเร่ง แต่ด้วยความที่แบตเตอรี่นั้นสามารถถอดออกมาแล้วนำไปเสียบชาร์จกับปลั๊กไฟบ้าน อย่างจอดรถไว้แล้วหิ้วแบตขึ้นไปชาร์จบนคอนโดหรือที่ทำงานได้ มันจึงค่อนข้างสะดวก ยิ่งถ้าแบตไม่หมดเกลี้ยงก็ไม่ต้องรอถึง 2-3 ชั่วโมงในการชาร์จ ก็คล้าย ๆ กับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้แหละครับ ในอนาคตหากทาง H SEM สามารถพัฒนาเพิ่มเติม ทางด้านการตอบสนองของระบบคันเร่งไฟฟ้า การชาร์ตและชดเชยกำลังไฟสู่แบตเตอรี่ หรือเพิ่มความเสถียรของอัตราเร่งที่ปะติดปะต่อกันด้วยวงจรโดยไม่มีการหน่วงสัญญาณได้ ผมว่ารถไฟฟ้าไทยน่าจะไปได้ไกลกว่านี้ แต่จากที่เริ่มต้นทดสอบมาจนถึงจุดนี้บอกได้เลยว่าแบรนด์ไทยแบรนด์นี้มาถูกทางแล้ว
HSEM WING พี่ใหญ่สุดลองดันเนิน
มาถึงทีเด็ดในสนามกันบ้าง เพราะถึงตรงนี้ผมจะได้ลองสลับสับเปลี่ยนทดสอบรถของทาง H SEM จนครบทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็นรุ่น CIAO ที่เป็นน้องเล็กสุด ซึ่งให้อัตราเร่งและความคล่องตัวที่ดีเกินคาด แถมยังมีครูซคอนโทรลล็อคความเร็วอัตโนมัติมาให้ด้วย หรือรุ่นกลางอย่าง MOBILA G ที่ใช้เกียร์มอเตอร์ซึ่งตอบรับการเรียกอัตราเร่งได้ทันใจดี แต่อย่างที่บอกว่าตัวท็อปคือรุ่นที่ผมหมายปองที่สุด นั่นคือ H SEM WING ที่ต้องบอกว่ามีความสวยงามและมีสมรรถนะที่ดีที่สุดในไลน์อัพ รุ่นนี้ใช้ Brushless Hub มอเตอร์แบบ DC 72V 3000W ซึ่งให้กำลังแรงบิดและทำความเร็วได้ดี และทำความเร็วบนถนนด้านนอกได้ 73 กม./ชม.
โครงสร้างโดยรวมดีเหมือนทุกรุ่นที่สัมผัส แต่การส่งกำลังงานจากมอเตอร์นั้นมี 3 ระดับ แถมยังสามารถใช้ระบบไฟฟ้าถอยหลังได้ด้วย อัตราเร่งต้นมาค่อนข้างเร็ว และระยะทดรอบของคันเร่งแคบกว่ามาก คือ แตะก็มา ที่สำคัญกำลังดันขึ้นทางลาดชันนั้นค่อนข้างดีทีเดียว มีสมรรถนะด้านการควบคุมที่ดี คล่องตัวทั้งยังมาพร้อมรูปลักษณ์ที่สวยงามสมกับเป็นรุ่นท็อป
อย่างที่กล่าวในตอนต้นว่า H SEM ได้ทะลายภาพลักษณ์ของรถไฟฟ้าที่เข้ามาในประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนของผมไปได้อย่างสิ้นเชิง ถือเป็นก้าวใหม่ของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแท้ ๆ ในประเทศไทยที่ผลิตออกมาได้แบบเกินความคาดหมายมาก ๆ ด้วยประสบการณ์จากการทำงานเกี่ยวกับยานยนต์ รถกอล์ฟไฟฟ้าและรถไฟฟ้าอเนกประสงค์โดยตรง ที่ทำให้รถมอเตอร์ไซค์ EV พลังงานทางเลือกฝีมือคนไทยมีสมรรถนะที่น่าจับตามอง และทำให้เรามองเห็นว่ายานยนต์ประเภทนี้ยังสามารถพัฒนาให้ดีขึ้นและมีราคาถูกลงกว่านี้ได้ในอนาคต สำหรับท่านที่กำลังมองหารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่มีสมรรถนะดี ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก ที่สำคัญมีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา ค่าเชื้อเพลิงที่ถูกและคุ้มกว่ารถจักรยานยนต์ที่ใช้ปิโตรเลียมในระยะยาว แนะนำให้ไปลองสัมผัสกันครับเชื่อว่าคุณจะไม่ผิดหวังแน่นอน
รายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติม www.facebook.com/hsemmotor.sev และ www.facebook.com/hsemmotor.stc หรือ โทรสายด่วนลูกค้าสัมพันธ์ โทร.099-001-1888