โมโตจีพี 2024 สนาม 13 รายการ Gran Premio Red Bull di San Marino e della Riviera di Rimini สนาม มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเซลลี ประเทศอิตาลี ถือเป็นอีกหนึ่งเรซที่น่าจดจำของแฟน ๆ #MM93 เมื่อแชมป์โลก 8 สมัย โชว์ความเก๋าประสบการณ์ มองเกมได้ขาดในจังหวะก่ำกึ่งท่ามกลางฝนที่เริ่มโปรยลงมาพร้อมสัญญาณ “ธงขาว” อนุญาติให้เข้ามาเปลี่ยนรถของ Race Director ในสถานการณ์ที่หลายคนเริ่มลังเล ดาวบิดสแปนิชวัย 31 ปี จาก Gresini Racing MotoGP™ ยังคงมุ่งมั่นเลือกดันต่อด้วยยางสลิค ก่อนจะไล่แซงเดือดจนผ่านเส้นรับธงตราหมากรุกไปเป็นคนแรก ผงาดคว้าโพเดี้ยมอันดับ 1 สองสนามติดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2021

ฟรันเชสโก บัญญายา แชมป์โลกคนปัจจุบันเป็นอีกหนึ่งคนที่ตัดสินใจไม่เปลี่ยนรถ พร้อมเลือกบิดแบบเอาชัวร์ พยายามเกาะติด มาร์ก มาร์เกซ เกือบตลอดทั้งเกม ก่อนเข้าวินมาเป็นอันดับสอง เก็บ 20 แต้มสำคัญลดช่องว่างในตารางแชมป์เปี้ยนชิพจนตาม ฆอร์เก้ มาร์ติน ผู้นำบนตารางที่ตัดสินใจผิดเลือกเข้ามาสลับรถจนต้องจบการแข่งในอันดับที่ 15 แค่เพียง 7 แต้ม ขณะที่ตำแหน่งสุดท้ายบนโพเดี้ยมตกเป็นของเอเนีย บาสเตียนินี่ (Ducati Lenovo Team) ที่สามารถรักษาสถิติการขึ้นโพเดียม 100% ในโมโตจีพี™ ที่มิซาโนของตนเองเอาไว้ได้

เรียกว่ากลิ่นดราม่านั้นลอยมาตั้งแต่เกมยังไม่เริ่มในรูปแบบของฝนที่เริ่มลงเม็ด ประกอบกับสัญญาณธงขาวจาก Race Director ซึ่งส่งให้บรรยากาศมีความตึงเครียด พอสัญญาณไฟดับลงเป็นบัญญายาที่พุ่งขึ้นมาคว้า Holeshot พร้อมกันมาร์ติน #JM89 ที่ขึ้นมาอยู่อันดับไปในช็อตเดียว ตามมาด้วยฟรังโก้ มอร์บิเดลลี่  (Prima Pramac Racing)

อันดับ 1-2 ยังคงเกาะตามกันมาติด ๆ เป็นมาร์ตินที่เริ่มเปิดเกมรุกพยายามทิ่มในโค้ง 2 ก่อนจะต้องรีบยกเพื่อไม่ให้ชนกับเปกโก้ ขณะเดียวกันที่ด้านหลังเปโดร อคอสต้า (Red Bull GASGAS Tech3) พยายามขึ้นแซงมอร์บิเดลลี่ด้วยเช่นกัน แต่ไปปะทะกับนักบิดอิตาเลี่ยนแทน ทำให้ดาวรุ่งจากสเปนเจ้าเบอร์ 31 ออกอาการเป๋แม้จะผ่านโค้ง 8 มาได้ แต่ก็มาบานอีกครั้งในโค้ง 10 และพลาดล้มไม่นานหลังจากนั้น เมื่อฝนเริ่มตกหนักขึ้นจนส่งผลต่อกริฟยางมอร์บิเดลลี่เป็นรายถัดไปที่สไลด์ล้ม ที่ด้านหน้ามาร์ตินกวดเปกโก้มาติด ๆ ขณะที่มาร์เกซเริ่มไล่แซงขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่พอวนมาเกือบถึงปากทางออก มีนักบิดเพียงคนเดียวเท่านั้นที่ตัดสินใจวิ่งเข้าพิท นั่นคือเจ้าของเหรียญทอง Tissot Sprint ในสนามนี้ The Martinator!

เมื่อมาร์ตินหายไปจากเกมบัญญายานำมาร์เกซที่ไล่กวดขึ้นมาอยู่หัวแถว แต่ก็หยุดแชมป์โลก 8 สมัยไว้ได้ไม่นาน พอจบรอบ 8 #MM93 ก็สามารถแซงขึ้นมานำพร้อมลากแจ็ค มิลเลอร์ ขึ้นมาจ่อท้ายเปกโก้ด้วย ส่วนมาร์ตินตกไปอยู่อันดับที่ 15 หลังกลับลงสนามพร้อมยางฝน แต่เหมือนฟ้าแกล้งเพราะฝนไม่ได้ตกหนักกว่าเดิมอย่างที่คาด ทำให้มาร์เกซและบัญญายา ยืดระยะขึ้นไปได้อีก

โอกาสในการเก็บแต้มของเปกโก้เลยเปิดโล่ง แม้จะตามมาร์เกซอยู่แต่ถ้าขี่แบบเซฟ #FB1 จะสามารถเก็บ 20 แต้มสำคัญได้ในสนามนี้ ส่วนคนที่ตัดสินใจสลับรถ – มาร์ติน, ราอูล เฟอร์นันเดซ (Trackhouse Racing), อคอสต้าหลังกลับมาแข่งอีกครั้งอเล็กซ์ รินส์ (Monster Energy Yamaha MotoGP™ Team) อเล็กซ์ เอสปาร์กาโร่และมาเวริค บีญาเลส ต้องกลับไปเข้าพิทไปเปลี่ยนรถอีกรอบ

แม้ฝนจะหยุดแล้วแต่ #MM93 ก็ยังทิ้งห่างออกไปได้เรื่อย ๆ ตามมาด้วยเปกโก้ที่เกาะไม่ยอมปล่อย ขณะที่เอเนีย บาสเตียนินี่เห็นช่องในการคว้าโพเดี้ยมแซงแจ็ค มิลเลอร์ขึ้นมาอยู่ในอันดับสามได้ เช่นเดียวกับแบรด บินเดอร์  (Red Bull KTM Factory Racing) ที่พอสนามเริ่มชื้นสามารถแซงขึ้นมารั้งอันดับ 4 เอาไว้ได้

สุดท้ายก็ไม่มีใครหยุดมาร์เกซที่ผ่านธงตราหมากรุกคนแรกแบบหล่อ ๆ ในบ้านของ Gresini Racing MotoGP™ ถือเป็นการคว้าแชมป์สองสนามติดของ #MM93 นับตั้งแต่ปี 2021 พร้อมประกาศให้โลกและแฟน ๆ รู้ว่าเขากลับมาแล้ว เปกโก้เข้าวินมาเป็นอันดับสองตามมาร์ตินที่ตัดสินใจผิดชีวิตเปลี่ยนแค่เพียง 7 แต้ม ส่วนอันดับที่สามและสี่ตกเป็นของบาสเตียนินี่และ บินเดอร์ ตามลำดับ โมโตจีพีสนามถัดไปจะแข่งขันกันที่ มิซาโน เวิลด์ เซอร์กิต มาร์โก ซิมอนเซลลี อีกครั้งวันที่ 27-29 ในรายการ Emilia-Romagna Grand Prix แฟน ๆ ความเร็วห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก: MotoGP