Chapter ใหม่แห่งตำนาน: รีวิว Indian 101 Scout และ Scout Bobber 2025
ในโลกของรถครุยเซอร์ที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน Indian Motorcycle ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งยังคงยืนหยัดและครองใจผู้ใช้ได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยประวัติความเป็นมากว่า 122 ปี เสน่ห์เฉพาะตัว และนวัตกรรมที่ไม่เคยหยุดพัฒนา วันนี้เราจะมาพูดถึงการกลับมาที่น่าสนใจของ Indian 101 Scout และ Scout Bobber 2025 ที่ไม่เพียงนำเสนอสมรรถนะทรงพลังขึ้นกว่าเดิม แต่ยังเพิ่มเทคโนโลยีล้ำสมัยที่หลอมรวมไว้กับความคลาสสิกได้อย่างแนบเนียน
101 Scout และ Scout Bobber เป็นรถครุยเซอร์ในตระกูล Scout สองรุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้นให้ดียิ่งกว่าเดิมในทุกด้าน คุณดอม เหตระกูล กรรมการผู้จัดการ บริษัท มอเตอร์ไซเคิล คิงดอม จำกัด และบริษัท บริทไบค์ จำกัด รวมถึงเป็นตัวแทนผลิตภัณฑ์จากอินเดียน มอเตอร์ไซค์เคิล วิภาวดี ผู้มาเป็นแขกรับเชิญของเราวันนี้ กล่าวว่า “แนวคิดหลักคือการรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของ Indian พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ เพื่อสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่เหนือกว่า ทั้งสองรุ่นถือเป็นการพัฒนาแบบ All New ที่ผลิตขึ้นตามฟีดแบคของผู้ใช้ ด้วยแนวคิดที่ผสานความเป็นต้นตำรับและสมรรถนะขั้นสูง ซึ่งได้รับการยอมรับเข้ากับความโมเดิร์น ทำให้เกิดเป็น All New Scout ที่นอกจากจะมีสมรรถนะดีที่สุดเท่าที่อินเดียนเคยทำมาแล้ว ยังมาพร้อมดีไซน์ที่สะท้อนถึงความเป็น Iconic Machinery ของแบรนด์ด้วย”
นอกจากคุณดอมจะมาบอกเล่าเรื่องราวและข้อมูลของผลิตภัณฑ์ให้เราได้ทราบแล้ว วันนี้เขายังจะออกไปขี่ทัวร์แลนด์มาร์คของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืนร่วมกับผมและทีมงาน เพื่อทดสอบสมรรถนะของ Scout สองรุ่นใหม่ในครั้งนี้ด้วย อ่านมาถึงตรงนี้บางคนอาจสงสัยว่า “เอ๊ะ! มัน All New ยังไง? หน้าตาก็คล้ายเดิม” แต่ถ้าลองเจาะลึกลงไป จะพบว่าสำหรับภายนอก อินเดียนต้องการรักษาเสน่ห์และสไตล์คลาสสิกที่เป็นเอกลักษณ์ของตนไว้ แต่ภายในนั้นใหม่ทั้งหมด ตั้งแต่เฟรมยันเครื่องยนต์เลยทีเดียว…
สองแบบสองสไตล์ จับคันไหนก็เท่!
101 Scout ถูกออกแบบให้สะท้อนถึงความย้อนยุคนิด ๆ ด้วยการใช้เส้นสายที่โค้งมน เน้นความประณีตในรายละเอียด ซึ่งให้กลิ่นอายของ Scout ในยุค 1920 แต่ในขณะเดียวกันก็ยังชูเรื่องความดุดันของสมรรถนะ และความทันสมัย เพราะอินเดียนตั้งใจให้มันออกมาเป็นรถครุยเซอร์สมรรถนะสูง ของที่ให้ติดรถมาจึงเป็นสเปกท็อป เน้นเพอร์ฟอร์แมนซ์การขับขี่แบบสปอร์ต ตามแบบฉบับของรถแนว Club style เริ่มตั้งแต่โม่งหน้าใหญ่ Quarter fairing แฮนด์ตั้งสไตล์ Moto ที่ใส่ตัว Riser ยกขึ้นมาอีก 6 นิ้ว วางมาบนชุดแผงคอแบบ Triple Clamp ตรา 101 edition บนถังน้ำมันพร้อมสีพิเศษเฉพาะรุ่น เบาะนั่งเดี่ยวท้ายสูงสไตล์ Gunfighter ที่เดินตะเข็บเก็บงานมาหรูหรา เบรกหน้าคาลิปเปอร์ Brembo จานดิสก์คู่ โช้คหน้าหัวกลับ 43 มม. โช้คหลังคู่มีซับแทงค์
ส่วน Scout Bobber Limited จะเน้นเส้นสายที่คมชัด ดุดัน ดีไซน์แบบ Bobber ที่เน้นความเปลือย ไฟหน้า บังโคลนมาแนวดิบ ๆ กรอบไฟหน้า ล้อ กระบอกโช้ค เฟรมยาวไปถึงท่อเก็บงานด้วยสีดำทั้งหมด เรียกว่าเข้มเต็มอารมณ์ตัดกับสีแดงของถังน้ำมันกับบังโคลนหลังพร้อมตรา Limited Edition
ทั้งสองรุ่นมาพร้อมเฟรมใหม่ที่ด้านหน้าเป็น Steel tube ท่อเหล็กเน้นความแข็งแรง น้ำหนักเบา และง่ายต่อการคัสตอม หม้อน้ำใหม่เล็กลงอีก 20 % (Airbox ก็ใหม่) ตรงกลางเป็นแคสอลูมิเนียมที่ซ่อนอุปกรณ์และระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มาได้อย่างแนบเนียน ยาวไปจนถึงด้านหลังซึ่งออกแบบมาให้สามารถรองรับการติดตั้ง Accessories ต่าง ๆ ที่ใช้ร่วมกันได้ เช่นเดียวกับท่อไอเสียเดี่ยวปลายกลมตรงที่ดีไซน์มาโดยคำนึงถึงการติดกระเป๋า และติดกล่องโดยไม่รู้สึกเกะกะเทอะทะ
SPEEDPLUS 1250CC V-TWIN 60° ใหม่ยกบล็อกรับปี 2025
เครื่องยนต์เจนใหม่สำหรับตระกูล Scout ที่มาพร้อมขุมพลัง V-Twin ขนาด 1,250 ซีซี DOHC สี่วาล์ว/สูบ ระบายความร้อนด้วยน้ำ ที่ให้แรงม้าสูงสุดเพิ่มขึ้นอีก 11% และแรงบิดสูงกว่าเดิม 14% ตัวเครื่องใช้โซ่ราวลิ้นซับเสียง 2 เส้น ทั้งสองสูบใช้ข้อเหวี่ยงและสลักก้านสูบร่วมกัน โดยกำหนดความของห่างก้านสูบตามการวางองศาเสื้อสูบที่ 60°
ลูกสูบเปลี่ยนใหม่ วาล์วมีขนาดใหญ่ขึ้น และเพลาข้อเหวี่ยงมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อน โดยมิติกระบอกสูบช่วงชักอยู่ที่ 104 มม. x 73.6 มม. (Over square) พร้อมอัตราส่วนกำลังอัดที่สูงถึง 12.5:1 Scout Bobber ใช้เรือนลิ้นเร่งขนาด 60 มม. มีกำลังสูงสุด 105 HP ที่ 7,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 111 นิวตันเมตรมาที่ 6,300 รอบ/นาที ส่วน 101 Scout ใช้เรือนลิ้นเร่งขนาด 63 มม. มีแรงม้าสูงสุดถึง 111 HP
ทุกอย่างถูกออกแบบมาโดยคำนึงถึงความคอมแพค กะทัดรัด ด้วยพื้นฐานเดียวกับกับ Indian FTR 1200 ที่เน้นความทรงพลัง ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบากว่าเดิม 4.5 กก. และเป็นแบบ Dry sump ไม่มีอ่างน้ำมันเครื่อง ภายในใช้ปั๊มน้ำมันเครื่องแบบ Rotor gear หรือที่หลายคนเรียกว่า Rotary pump
ด้านนอกคลาสสิกได้ใจ ด้านในใส่เทคโนโลยีมาเพียบ
หลังพูดคุยรายละเอียดเกี่ยวกับตัวรถที่อินเดียน มอเตอร์ไซค์เคิล วิภาวดี กันเสร็จ เราสองคนก็พร้อมออกขี่ทัวร์แลนมาร์คของกรุงเทพฯ ในยามค่ำคืน โดยผมขี่ Scout Bobber Limited ส่วนคุณดอมเลือก 101 Scout สำหรับผม Scout Bobber เป็นรถที่เตี้ย ขี่ง่าย ขึ้นคร่อมปุ๊บก็รู้สึกคุ้นเคยทันที เพราะตำแหน่งท่านั่งและความสูงเบาะแค่ 649 มม. นั้นมีความใกล้เคียงกับรุ่นเก่า เอื้อมไปจับแฮนด์แบบ flat bar ต้องงอตัวก้มหลังเข้าหานิด ๆ พักเท้า Forward ยื่นไปด้านหน้า คือทรงและท่าขี่มันเป็นสไตล์เก๋า ๆ ดุดัน โดนใจ
กุญแจตัวนี้ให้มาเป็นแบบ Keyless แล้ว ใส่กระเป๋าไว้ไม่ต้องเสียบ แต่เอ๊ะ! กดปุ่มสตาร์ทที่แฮนด์ด้านขวาแล้วรถไม่ติด จนคุณดอมเดินมาบอกว่า มันต้องกดปุ่มสัญลักษณ์ 0-1 ที่ซ่อนไว้ตรงกลางใต้ถังตรงเครื่องยนต์ฝั่งซ้าย ถึงจะกด Ignition switch ได้ แหม ไฮเทค เรือนไมล์กลมเดี่ยว TFT ขนาด 4 นิ้ว สีสวยชัดเต็มตา มีโหมดขับขี่ standard, tour และ sport ระบบ Traction control กับ cruise control พร้อมช่องชาร์จ USB สามารถเชื่อมต่อมือถือ นำทางแบบ Turn-by-turn และดูสถานะต่าง ๆ ของรถได้ด้วย
Bangkok night ride
ระบบคลัตช์เป็นอีกจุดที่ถูกออกแบบใหม่ให้คล้ายกับรถสปอร์ตพรีเมียม โดยมีการเพิ่มช่องว่างในชามและเสื้อคลัตช์ พร้อมใช้แผ่นเหล็กคลัตช์ที่มีขนาดใหญ่และหนา ช่องว่างดังกล่าวช่วยให้น้ำมันเครื่องไหลผ่านได้อย่างรวดเร็ว แม้จะใช้สปริงคลัตช์แค่ 3 ตัว แต่ก็ยังแข็งพอที่จะต้านแรงของแผ่นกดคลัตช์ เพื่อแยกแผ่นคลัตช์ออกจากกันและตัดกำลังได้แม่นยำ โดยไม่รู้สึกว่าคลัตช์จับช้าหรือเร็วเกินไป ออกตัวไม่ต้องใช้รอบเครื่องเยอะ เกียร์ต่ำเข้าง่าย
เลี้ยวออกจากตึก DOM เข้าสู่การจราจรมุ่งหน้ายังดินแดง อย่างแรกที่รู้สึกคือรถมันเลี้ยวมุมแคบได้ดีและคล่องตัวขึ้นมาก แถมเอียงได้เยอะ แต่ก็ยังรู้สึกเสถียรหน้าไม่เบา เพราะตัวเครื่องถูกออกแบบให้มีความกระชับ พอเครื่องสั้นจึงสามารถยืดระยะสวิงอาร์มออกไปได้ ทำให้รถมีระยะฐานล้อยาวเกาะถนนดี พอมีความมั่นคงแล้ว วิศวกรเลยสามารถปรับองศาคอให้ชันขึ้น (Rake/Trail) 29.4° / 125.2 มม. Scout Bobber รุ่นปี 2025 เลยเลี้ยวได้เยอะ คล่องตัว และสามารถเอียงรถได้ต่ำถึง 31° ส่วน 101 Scout เขามาสายเพอร์ฟอร์แมนซ์อยู่แล้ว ยิ่งได้เลี้ยวได้แคบ และเอียงได้เยอะขึ้นไปอีกถึง 33°
ต่อเกียร์ลื่น ตัดกำลังแม่นยำ
พอเพิ่มความเร็วพร้อมเริ่มไล่เกียร์ การตัด-ต่อกำลังไปยังเฟืองเกียร์ตามรอบเครื่องยนต์ต่าง ๆ รู้สึกเข้าได้เนียน ไม่มีตกหล่น ระบบเกียร์ 6 สปีด ถึงแม้จะไม่ได้เป็นชุดใหม่ แต่ก็ได้รับการปรับปรุงมาตั้งแต่ในรุ่นก่อน ๆ โดยการเปลี่ยนไปใช้เกียร์เฟืองตรง (Spur gear) พร้อมปรับกระปุกและก้ามปูเกียร์ เพื่อแก้ปัญหาเรื่องเกียร์หอนที่มีใน Scout รุ่นเก่า ๆ ซึ่งพอมาทำงานร่วมกับระบบคลัตช์ และ Assist & Slipper Clutch ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นปี 2025 ทำให้การขับขี่ใช้งานในเมืองรู้สึกสบายขึ้นอีกจม
ระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-Wire ตอบรับแม่นยำ ไม่มีอมหรือดีเลย์ ทำงานร่วมกับระบบจ่ายน้ำมันซึ่งเป็นหัวฉีดแบบ Closed Loop ที่ปรับส่วนผสมน้ำมันและอากาศตามค่าจาก O2 Sensor ตลอดเวลาตั้งแต่สตาร์ทและระหว่างขับขี่ คือแรงบิดมันมาดีตั้งแต่รอบต่ำ ๆ แถมสม่ำเสมอในทุกย่านแบบ Flat torque
กดคันเร่งแล้วรู้สึกปรู๊ดปร๊าดทันใจ ข้อเหวี่ยงน้ำหนักเบา รอบเครื่องยนต์มาไว เอนจิ้นเบรกที่เกิดจากการเปิด-ปิดคันเร่ง หรือลดเกียร์ต่ำเวลาขี่ในเมืองมีความนุ่มนวล ตรงจุดนี้เกิดจากเฟืองอัตราทดที่ข้อเหวี่ยง (Primary shaft) ซึ่งถูกออกแบบใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพราะถ้ามีขนาดเล็กเกินไปจะทำให้รอบมาเร็ว เกียร์สั้น และเครื่องมีเอนจิ้นเบรกสูง แต่ถ้าใหญ่เกินไปก็จะทำให้รอบต่ำกำลังมาช้า ปลายเกียร์ห้อย และกำลังตกในรอบสูง
เครื่อง SPEEDPLUS จึงปรับอัตราทดของเฟือง Primary shaft และ Secondary clutch ใหม่ ให้มีความนุ่มนวลและส่งกำลังทั้งหมดไปยังชุดเฟืองเกียร์ได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น โดยเพิ่มเฟือง Primary Timming อีก 1 ตัวติดตั้งไว้เหนือเฟือง Primary shaft พร้อม Primary plate ที่ร้อยโซ่ราวลิ้นไว้ด้านใน ทำให้สามารถใช้โซ่ราวลิ้นที่สั้นแต่แข็งแรงกว่าเดิมได้ เสียงเลยเงียบ โซ่ไม่แกว่ง มีความทนทาน และแม่นยำในการทำงาน นอกจากนี้ยังส่งกำลังไปยังเฟืองเกียร์ได้รวดเร็ว ต่อเนื่อง ไม่มีกระตุก
ขี่ในโหมด Standard เดิม ๆ ไม่ได้ปรับอะไร เวลากระแทกคันเร่งยังรู้สึกว่ากำลังเครื่องยนต์นั้นมาฉับไว ทันใจ บิดสนุกมากกว่าเดิม รับกับเสียงท่อที่ลั่นขึ้นมาจนเผลอยิ้มที่มุมปาก สำหรับการขับขี่ในการจราจร Scout Bobber ที่ให้ล้อมาขอบ 16 นิ้ว ไม่ว่าจะเลี้ยวปกติหรือมุดตามช่องว่างก็ทำได้แบบผ่านฉลุย รถติด ๆ เอาเท้าลงมาเหยียบพื้นได้เต็มเท้าแบบสบาย ๆ ส่วน 101 Scout ใช้ล้อขอบ 19 นิ้ว ทำให้ระยะความลาดเอียงกันสะเทือนหน้าตึงกว่าเพราะความกว้างของขอบล้อ (Rake/Trail) 29.0°/121.9 มม. เพื่อรองรับการเปิดคันเร่งอย่างรวดเร็วออกจากมุมเลี้ยวก็สามารถไปได้แบบคล่องตัว สวิงรถเปลี่ยนทิศทางได้เร็วและสปอร์ตกว่า
ช่วงล่าง เบรกเก็บงานเนียน ๆ
อย่างหนึ่งที่ไม่พูดถึงคงไม่ได้คือเบาะของ Scout Bobber ที่นั่งสบายกว่าตัวเก่ามาก โช้คหน้าเทเลสโคปิกขนาด 41 มม. กับโช้คหลังคู่ที่มีระยะยุบแค่ 50.8 มม. (น้อยที่สุดในบรรดา Scout ปี 2025) สามารถรองรับการวิ่งผ่านหลุม ฝาท่อ และความเหียกต่าง ๆ ของผิวถนนในเมืองได้แบบสบาย ตกหลุมหนักก็ไม่มียุบจนสุดช่วง
เฟรมที่ด้านหน้าเป็น Double cradle เปลคู่ สามารถรองรับน้ำหนักของเครื่องยนต์และแรงกดทั้งหมดเมื่อลดความเร็วเมื่อใช้เบรกหน้าหนักๆ ได้ดี พร้อมกระจายแรงสะเทือนจากหน้าไปหลัง และหลังมาหน้า ผสานกับระบบกันสะเทือนได้แม่นยำ ไม่สะท้านมาถึงตัวกับข้อมือ
การวางเครื่องยนต์ให้สูบหน้าเอียงไปด้านหน้า 70° และด้านหลังเอียงในองศาที่เท่ากัน โดยห่างจากแกนศูนย์กลางข้อเหวี่ยงเป็นตัว V ทำมุมห่างกัน 60° ช่วยกำหนดจุดศูนย์ถ่วงให้รถรู้สึกเกาะถนน หน้าไม่หนักเลี้ยวได้ไวแต่มั่นคง จังหวะชะลอความเร็วคาลิปเปอร์หน้า 2 ลูกสูบ พร้อมจานดิสก์เดี่ยวขนาด 298 มม. หยุดความเร็วได้สบาย ส่วน 101 Scout สมรรถนะย่อมมีความลงตัวกว่าแน่นอน เพราะโช้คหน้าให้มาเป็นหัวกลับ 43 มม. ปรับค่าได้ ด้านหลังคู่มีซับแทงค์ และคาลิปเปอร์หน้าเป็น Brembo พร้อมดิสก์คู่ขนาด 320 มม. ซิ่งแค่ไหนก็เอาอยู่แบบเหลือ ๆ
บอกเลยว่า “ทำถึง”
หลังแวะถ่ายภาพตามแลนด์มาร์กต่าง ๆ ในกรุงเทพจนดึกพอสมควร จนถนนเริ่มโล่งพอให้ใช้หมด 6 เกียร์ได้ ก็ถึงเวลากดเรือนไมล์ที่เป็นทัชสกรีนเปลี่ยนไปเป็นโหมด Sport ซึ่งแน่นอนว่าอัตราเร่งนั้นจี๊ดจ๊าดขึ้นกว่าเดิมมาก บรรจงกดคันเร่งเน้น ๆ ต้นกลางไม่ต้องถามถึงมาแบบนุ่ม แต่หนัก พรวดยาวส่งไปยังปลายเกียร์ เข็มตวัดแตะ 130 มีแรงสั่นสะเทือนมาให้เห็นบ้างเล็กน้อย ถึงแค่นี้ก็ต้องรีบยก แต่ถ้าอิงจาก Scout รุ่นเก่าที่ผมเคยขี่มา บอกเลยว่ามันยังไปได้อีกโข ยิ่งเครื่อง SPEEDPLUS ตัวนี้เขาเพิ่มม้า ปรับปรุงรอบปลายมา 160-170 ก็น่าจะมีมาให้เห็นสบาย ๆ สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือเครื่องยนต์นั้นตอบรับได้หนักแน่น ถึงใจกว่าเดิมมาก รอบมาไว บิดสนุก กำลังไล่ขึ้นมาต่อเนื่อง จะขี่อยู่รอบไหน เกียร์ไหน พอกระแทกคันเร่ง รถก็ดึงออกไปแบบหมดจด ขี่ในเมืองไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนเกียร์มาก การปรับปรุงของอินเดียน ตั้งแต่ส่วนบนของเครื่องยนต์จากลูกสูบ ไล่ลงมายันข้อเหวี่ยง สู่ท่อนล่างด้วยการปรับอัตราทดของเฟือง Primary shaft และ Secondary clutch ผ่านไปถึงระบบคลัตช์ ระบบเกียร์สู่ล้อหลัง มันพูดได้คำเดียวว่า “ทำถึง” ยิ่งเป็น 101 Scout ที่ใช้เรือนลิ้นเร่ง 63 มม. พร้อมปรับแมพน้ำมัน/อากาศเพิ่มจนม้าสูงสุดเพิ่มเป็น 111 ตัว ยิ่ง “ไม่ต้องพูด” เพราะมันซิ่งขึ้นอีกจม
สรุป
101 Scout และ Scout Bobber 2025 คือ Chapter ใหม่ของรถในตระกูล Scout จาก Indian Motorcycle ที่วิวัฒนาการขึ้นไปอีกขั้น ไม่ว่าจะเรื่องของความสวยงาม ประณีต ขององค์ประกอบภายนอกที่ซ่อนระบบอิเล็กทรอนิกส์ ใส่เทคโนโลยีล้ำสมัยมาได้แบบแนบเนียน โดยไม่ทำให้เสียอารมณ์ความคลาสสิก ขณะเดียวกันด้านสมรรถนะการขับขี่ก็ยังทำให้ตัวรถสามารถตอบรับการใช้งานได้อย่างนุ่มนวล ขี่สบาย แต่สลับไปส่งกำลังแบบหนักแน่น ถึงใจ ได้ทุกครั้งที่ต้องการ
ทำให้ผมนึกถึงคำที่คุณดอมพูดตอนเรานั่งคุยกันว่า สไตล์การทำรถรุ่นใหม่ของอินเดียนให้พี่เบิร์ดนึกภาพชุดสูทที่ภายนอกตั้งใจตัดให้มันมีความคลาสสิก หรูหรา ออกงานได้ตามความนิยม แต่พอใส่แล้วเราสามารถวิ่งได้ ออกสเต็ปได้ บู๊ได้ โดยที่ไม่ต้องกลัวว่าตะเข็บมันจะขาด แขนมันจะฉีก มันคือการยกระดับความเป็น Iconic Machinery ให้สอดคล้องกับสมรรถนะของโลกยุคใหม่โดยไม่ละทิ้งตัวตน และความเป็นมากว่า 122 ปี ซึ่งบอกเล่าผ่านตราสัญลักษณ์หัวอินเดียนแดงที่ประทับอยู่บนรถไป…
- Word/Test: Saen Boonchoeisak
- ขอบคุณ แสงสว่าง บาร์แอนด์เรสเตอรองท์
- Indian Motorcycle Thailand
- คุณ ดอม เหตระกูล Indian Motorcycle Vibhavadi