All New Honda Forza 350 2023
กระแสรถจักรยนต์ออโตเมติกในไทยที่ “แรงดีไม่มีแผ่ว” ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ในปัจจุบันเราได้เห็นรถออโตความจุกระบอกสูบสูง ๆ หรือที่เรียกกันว่า ‘บิ๊กสกู๊ตเตอร์’ มากมายหลายแบรนด์ในท้องตลาด ไม่เว้นแม้แต่ค่ายจากฝั่งยุโรปและอิตาลี
เสน่ห์ของรถประเภทนี้คงหนีไม่พ้น ความขี่ง่ายใช้คล่อง (Ease of use) แบบบิดก็ไป เบรกก็หยุด ไม่ต้องกำคลัตช์เปลี่ยนเกียร์ให้วุ่นวาย ซึ่งถูกนำมาผนวกเข้ากับเครื่องยนต์พิกัดใหญ่ที่หยิบยืมเทคโนโลยีมาจากรถสปอร์ตรุ่นใหญ่ของทางค่าย จนออกมาเป็นสมรรถนะที่ใคร ๆ ก็คุมได้ จะใช้งานในชีวิตประจำวันหรือออกทริปทางไกลก็สามารถทำได้อย่างสบาย
Honda คือหนึ่งในผู้นำตลาดรถออโตเมติกที่มีความหลากหลายด้านไลน์อัพของผลิตภัณฑ์ เพราะมีตั้งแต่เครื่องยนต์ 150-750 ซีซี รวมถึงซีรีย์ SUV ขวัญใจสายลุยที่เพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ไปไม่นานอย่าง ADV 160 และ X-ADV 750 แต่วันนี้เราอยู่กับรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ฝั่งถนนดำรุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวแบบ World Premier ครั้งแรกในโลกก่อนใครในประเทศไทยไปเมื่อไม่นาน ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึง All New Forza 350 ที่ออกมาด้วยกัน 2 รุ่นได้แก่ Standard Type และ Roadsync Type ในราคาแนะนำเริ่มต้น 1.79 แสนบาท กับดีไซน์และรูปลักษณ์ซึ่งถูกปรับเปลี่ยนในหลายจุดด้วยกัน…
เครื่องยนต์ eSP+ ชื่อนี่ไว้ใจได้
ในส่วนของเครื่องยนต์ All New Honda Forza 350 ยังคงใช้เครื่อง eSP+ บล็อกเดิมที่โดดเด่นในด้านความจัดจ้านของอัตราเร่ง กับขุมพลังสูบเดี่ยว 329.6 ซีซี สี่จังหวะ SOHC 4 วาล์ว ระบายความร้อนด้วยน้ำ ซึ่งกำหนดมิติกระบอกสูบและช่วงชักมาที่ 77.0 x 70.7 มม. อันเดอร์สแควร์ กำลังอัดสูงสุด 10.5:1 จ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงด้วยระบบหัวฉีด PGM-Fi เรือนลิ้นเร่งขนาด 32 มม. จุดระเบิดแบบดิจิตอลที่ 180° ให้แรงม้าสูงสุด 28.8 แรงม้าที่ 7,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 31.5 นิวตันเมตร ที่ 5,250 รอบ/นาที ระบบคลัตช์แห้งแบบแรงเหวี่ยง (Centrifugal clutch) ทำงานผสานกับระบบเกียร์อัตโนมัติ และระบบขับเคลื่อนแบบ V-Matic ด้วยสายพาน V-Belt เครื่องยนต์อยู่บริเวณกึ่งกลางด้านหน้าล้อหลังวางทำมุม 55° เชื่อมต่อกับชุดเพาเวอร์เทรนขับเคลื่อนและกรองอากาศบริเวณฝั่งซ้ายวางตามแนวแทนสวิงอาร์ม ส่วนฝั่งขวาเป็นแขนสวิงอาร์ม (เหมือนกับ Semi pivot สวิงอาร์ม) และท่อไอเสีย โดยทั้งสองข้างยึดระบบกันสะเทือนคู่ไว้อย่างแข็งแรง
โครงสร้างภายนอก ชุดพลาสติก
มองเผิน ๆ จากภายนอก แน่นอนว่าที่เปลี่ยนไปจากเดิมเลยคือเรื่องของดีไซน์ตั้งแต่ด้านหน้า ด้วยไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ Dual LED Headlight ฝังแยกข้างอยู่ในเคาริ่งหน้าทรงสามเหลี่ยมที่กดต่ำราบลงมาแบบ Downdraft พร้อมมี Air way ช่องรีดอากาศทั้งซ้าย-ขวา ซึ่งถูกออกแบบให้สอดคล้องกับหลักอากาศพลศาสตร์มากยิ่งขึ้น ชิลด์หน้าเป็นแบบปรับระดับไฟฟ้าสะดวกสบาย ส่วนกระจกมองหลังสามารถพับและปรับได้แบบแมนนวล เหลี่ยมมุมของแฟริ่งทำให้ตัวรถดูกว้างขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่ไฟท้ายทรงตัว U ทำให้ช่วงท้ายดูเพรียวไม่บานใหญ่เทอะทะ
เรือนไมล์ใหม่เป็นอนาล็อค + ดิจิตอล สวย ชัดเจน มีเพิ่มขึ้นมาคือบอกอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันว่าวิ่งอยู่เฉลี่ยที่กี่กิโล/ลิตร นอกนั้นรายละเอียดหลัก ๆ ก็ประมาณเดิมคือเน้นความพรีเมี่ยมของรายละเอียดสมกับเป็นบิ๊กสกู๊ตเตอร์แนวทัวร์ริ่ง แต่ถ้าได้ขี่จริง ๆ จะรู้ว่าสมรรถนะของมันมีความเป็น Sport Automatic มากเลยทีเดียว
สัมผัสทดสอบสมรรถนะ
แพลนของเราคือออกจากกรุงเทพในช่วงบ่าย ๆ มุ่งหน้าสู่ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อไปพักที่บ้านพี่ไมค์ รีสอร์ท ติดริมทะเลหาดปากน้ำปราณหนึ่งคืน แล้วใช้เส้นเลาะริมปากน้ำวิ่งขึ้นเขาไปหาทางสวย ๆ ถ่ายภาพ
ตัวรถดูสูงขึ้นกว่าเดิมนิดหน่อย น่าจะมาจากช่วงท้ายที่เชิดสูงกับทรงของไฟท้ายใหม่ที่ตวัดขึ้น เพราะจริง ๆ ความสูงของเบาะเท่าเดิมคือ 780 มม. สำหรับคนที่สูง 170 ซม. กว่า ๆ เท้าจะเหยียบพื้นได้สบาย ๆ เพราะสเต็ปหน้าของเบาะต่ำอยู่แล้ว ระยะแฮนด์กว้างกำลังสบาย ปลายแฮนด์กดต่ำเลี้ยวง่าย คล่องตัว ระดับก้านเบรกทั้งสองด้านอยู่ในตำแหน่งที่กำลังพอเหมาะ กุญแจให้มาเป็น Keyless เหมือนเดิม ฝั่งซ้ายมีพอร์ทจ่ายไฟ USB พร้อมช่องเก็บของ สวิตช์ต่าง ๆ ดูพรีเมี่ยม สวิตช์ควบคุมส่วนใหญ่จะรวมอยู่ในฝั่งซ้ายเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสวิตช์ปรับชิลด์หน้าขึ้น-ลง สวิตช์ปิดระบบ HSTC ฯลฯ โดยฝั่งขวา จะมีแค่ปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์, off-run และไฟฉุกเฉินเท่านั้น
สตาร์ทเครื่องยนต์เสียงค่อนข้างเงียบ รอบเดินเบาอยู่ที่แถว 1,700 รอบ/นาที คันเร่งยังคงใช้สายเคเบิ้ล แต่ลองเร่งดูก็รู้สึกประทับใจเช่นเดิม เพราะการตอบรับสั่งงานสู่ตัว Throttle body มันมีความฉับไวและแม่นยำแบบแทบจะ 1/1 รู้สึกไม่ต่างจากพวกระบบคันเร่งไฟฟ้า Ride-by-wire ของรถบิ๊กไบค์เลย แค่มีเซอร์โวกับไม่มีเท่านั้นเอง
ฝ่าการจราจรออกจากกรุงเทพในวันที่อากาศร้อนจัด เรื่องความคล่องตัวบนถนน ในการจราจรรถออโตเมติคแบบนี้ทำได้ดีอยู่แล้ว เฟรมแบบอันเดอร์โบน (Under bone) ออกแบบและทำมุมรับน้ำหนักตกจุดศูนย์ถ่วงได้ดี รถจึงควบคุมได้กระฉับกระเฉง องศาคอที่วางมา Rake 26° และความลาดเอียงกันสะเทือนหน้า (Trail) 30 มม. ถ้าจะเปรียบกับรถสปอร์ตของ Forza 350 กว้างกว่าถึง 2 มม. ทำให้รถรู้สึกเสถียร, เลี้ยวง่าย หน้าไม่เบาจนมีอาการกระพือหรือสะบัด ไม่ว่าจะเลี้ยวมุมแคบหรือซอกแซกขนาดไหนก็สามารถ
อัตราเร่งในรอบต่ำ มาเร็วตั้งแต่ออกตัวและมาแบบนุ่ม ๆ ในช่วงความเร็วรอบเครื่องยนต์ไม่เกิน 4,000 รอบ/นาที การส่งถ่ายรอบเครื่องค่อนข้างราบรื่น รถตอบสนองได้ดี มีกระชากบ้างเล็กน้อยถ้ากดคันเร่งพรวดหนัก ๆ ท่อไอเสียกักเก็บกำลังงานในรอบต่ำพร้อมคายไอเสียที่ถูกเผาไหม้ออกได้อย่างหมดจด รวดเร็ว ต้องยอมรับว่าฮอนด้าจัดการกับความร้อนสะสมของเครื่องยนต์ให้สามารถคายออกไปจากห้องเผาไหม้ได้ดีมาก ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดช่องให้ชุดพลาสติกมีความกว้าง เพื่อให้อากาศผ่านตรงเข้าสู่หม้อน้ำที่วางนอนใต้ Mid Frame เลยรับอากาศได้สองทาง คือด้านหน้าตรง และอากาศที่ช้อนขึ้นจากใต้ท้อง ทำให้สามารถลดอุณหภูมิเมื่อขับขี่ได้อย่างรวดเร็ว แม้จะขี่ในความเร็วต่ำ อากาศก็ยังผ่านไปดันความร้อนของตัวเครื่องออกทางด้านหลังได้อย่างสบาย พัดลมก็แทบจะไม่ต้องทำงานเลยถ้าการจราจรไม่หนาแน่นจริง ๆ
อีกจุดสำคัญที่ช่วยจัดการกับความร้อนสะสมคือโปรไฟล์ของแคมชาฟท์ที่ปล่อยกำลังอัด 10.5:1 ออกมาแบบไม่เร็วจนเกินไป ทำให้การเผาไหม้จากการจ่ายน้ำมันของหัวฉีด 12 รู มีความหมดจด โดยไม่ทำให้เครื่องยนต์เกิดการน็อคหรือเขกเมื่อใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่มีค่าออกเทนแตกต่างกัน โดยมี Piston Oil Jet หรือระบบฉีดน้ำมันหล่อลื่นเข้าทางใต้ลูกสูบและปั๊มน้ำมันเครื่องแบบสองห้อง ช่วยระบายความร้อนที่อยู่เหนือหัวลูกสูบ ดึงเอาความร้อนออกไปพร้อม ๆ กับการคายไอเสียด้านบนอีกแรง กำลังงานจึงไม่ตกในปลายเกียร์ รถสามารถใช้รอบเครื่องยนต์สูง ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง
ช่วงเกิน 4,000 รอบ/นาทีขึ้นไป กำลังของเครื่องยนต์มีความติดมือ เกรี้ยวกราดขึ้นอย่างชัดเจน มาเร็วได้ใจตามโปรไฟล์ “ลูกโตช่วงชักสั้น” ซึ่งเป็นรถรอบจัดอยู่แล้ว ปลายไหล ไม่ตัน 120 กม./ชม. นี่มาสบาย ๆ ดันยาวไปได้ถึง 155 บางช่วงของทางถึง 160 ก็มี พอเร่งปุ๊บพู่เล่ย์หน้า-หลัง ก็ทำงานเข้าคู่กับการตัดต่อกำลังของคลัตช์แรงเหวี่ยงที่ใช้ชุดชามคลัตช์ขนาดใหญ่ แผ่นคลัตช์หนา สปริงแข็ง มันโดดรับกันแบบเกียร์ต่อเกียร์ ทำให้รถรู้สึกขี่สนุกดีมาก
ในความเร็วหากปรับชิลด์ไว้ในตำแหน่งสูงสุด อากาศที่เข้ามาปะทะแทบจะไม่โดนตัวคนขี่เลย ตัวรถยังรู้สึกเสถียร และเกาะถนน ไม่มีอาการแกว่งหรือกระพือ ถ้าปรับชิลด์ไว้ในระดับต่ำสุดแล้วหมอบเล็กน้อย อากาศจะตัดผ่านหมวกคนขี่ไปได้พอดี ชุดแฟริ่งช่วยตัดอากาศให้ผ่านตัวไปถึงช่วงท้ายที่มีความสูงและชุดพลาสติกกว้างออกมารับกัน ทำให้ไม่รู้สึกว่าอากาศนั้นหวนตรงแถวท้ายรถ ถ้ามีคนซ้อนก็น่าจะไปกันได้สบาย ๆ ตลอดทาง
ออกจากรีสอร์ท บ้านพี่ไมค์ ในช่วงเช้าตรู่ ท่ามกลางอากาศที่เย็น มีหมอก ครึ้มฟ้าครึ้มฝนแบบไม่มีแดด ช่วงขี่ดันขึ้นเขาที่ชันและความกดอากาศค่อนข้างต่ำ ถึงเครื่องบล็อกนี้จะผ่านยูโร 5 ที่จำกัดไอเสียไว้อย่างรัดกุม แต่เครื่องยนต์ก็ยังตอบสนองได้ดี ให้อัตราเร่งโดยกำลังไม่ตก เครื่องไม่ตื้อ รอบมาเร็วเมื่อกระแทกคันเร่ง และไหลแบบไม่มีเอนจิ้นเบรก โดยมีมุมผนังด้านในของห้องกรองคอยช่วยเพิ่มแรงดันของอากาศที่ไหลเข้ามาตรง ๆ เสริมแรงดูดเวลาเปิดเรือนลิ้นเร่งอีกแรง
ช่วงทางลงซึ่งมีความคดเคี้ยว รถยังคงเลี้ยวง่าย ช่วงล่างทำงานได้ดี เมื่อใช้เบรกหน้าโช้คหน้าจะยุบลงโดยคุมแรงดันน้ำมันผ่านวาล์วให้มีความหนืด รองรับแรงกดขณะที่ระยะฐานล้อหดสั้นลง ส่วนโช้คหลังที่ปรับ Preload ได้ 5 ระดับ นั้นคายตัวค่อนข้างเร็ว ทำให้การเลี้ยวมุมแคบหรือการเลี้ยวเข้าโค้งต่อเนื่องแบบสวิงซ้ายขวาทำได้ง่าย ยางติดรถ tubeless หน้า 120/70-15 และหลัง 140/70-14 เองก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้เราสามารถเอียงรถได้ตามต้องการ หากใช้ลมยางตามสเปก ไม่ปล่อยให้ลมอ่อนเพราะหน้ารถจะรู้สึกหนักและคล่องตัวน้อยลงในทันที ส่วนเรื่องระบบเบรกคาลิปเปอร์ Nissin กับ ABS แบบ Two channel เอาอยู่แบบสบาย ๆ ลองกำเบรกหน้า-หลังหนัก ๆ ก้านเบรกจะเต้นตึก ๆ บ่งบอกว่า ABS ทำงาน แต่หยุดได้อยู่และไม่ยืดระยะเบรก มั่นใจหายห่วง
สรุปส่งท้าย
All New Forza 350 เป็นรถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่มีความคุ้มค่าน่าเป็นเจ้าของอีกหนึ่งรุ่น ไม่ว่าจะจากสมรรถนะหรือจากสเปกที่ให้มาดีแบบไม่มีกั๊ก รายละเอียดในส่วนของดีไซน์ที่ถูกปรับใหม่ช่วยทำให้รถสวยขึ้นมากน้อยขนาดไหน อันนี้ก็อาจจะแล้วแต่คนชอบ แต่ท้ายที่สุดแล้วแก่นแท้ของมันที่ขึ้นชื่อเรื่องความขี่ดี ขี่สนุก กำลังเครื่องมาเต็ม เร่งได้ถึงใจ ก็ยังคงเดิม ถ้าคุณอยากได้รถออโตเมติกที่มีความพรีเมี่ยมและอเนกประสงค์ ชอบสมรรถนะแบบสปอร์ต แต่วันหยุดก็อยากซ้อนแฟน ติดกล่องไปเที่ยวด้วย บอกเลยว่าของมันต้องมี ไปลองสัมผัส ก่อนตัดสินใจกันได้แล้ววันนี้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้าทั่วประเทศครับ