0

พิสูจน์สมรรถนะ IRC IZ-Ss S99T ยางสกู๊ตเตอร์สปอร์ตระดับพรีเมี่ยม 2,000 กิโลเมตร 4,088 โค้ง

ถ้าพูดถึงยางรถจักรยานยนต์ IRC โดย บริษัท อีโนเว รับเบอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หลายคนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะนอกจากจะผลิตยางนอก-ยางในรถจักรยานยนต์คุณภาพสูงมาตรฐานระดับสากล แต่มีราคาที่เข้าถึงง่ายแล้ว IRC ยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้ผลิตเลือกใช้เป็นยางติดรถ (OEM) ที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบันมากมายหลายรุ่น

สำหรับการเดินทางไกลในครั้งนี้ นอกจากจะมีโอกาสได้ทดสอบสมรรถนะของ Honda Forza 350 แบบบิดเต็มไมล์ใน Exclusive Trip ของกิจกรรม Fasttrack Weekend Touring แล้ว ยูสเซอร์ทั้งสามท่านอย่าง คุณอลงกรณ์ ไตรรัตน์ถนอม (กาย) คุณ จิดาภา ฤทธิจักร (มาเฟีย) และ คุณอิทธิพร ทิพยศร (ปอนด์) ยังมีโอกาสได้ร่วมลองทดสอบยาง IRC รุ่น IZ-Ss S99T ซึ่งเป็นยางสปอร์ตระดับ พรีเมี่ยมที่ “สร้างมาเพื่อ” รถออโตเมติกขนาดกลางระดับ 125-350 ซีซี โดยเฉพาะ…

บนเส้นทางไป-กลับ กรุงเทพฯ-ตาก-แม่สอด-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน-บ้านรักไทย-ปาย-เชียงใหม่ ระยะทางกว่า 2,000 กิโลเมตร ผ่าน 4,088 โค้ง ประสิทธิภาพของยาง IZ-Ss S99T จะเป็นยังไง เจอโค้งโหดวิ่งทางไกลยับ ๆ ขนาดนี้จะไหวไหม เรานำฟีลลิ่งการขับขี่ใช้งานจริงของทั้งสามท่านมาเรียบเรียงให้ติดตามกันครับ…

จุดเด่นยาง IRC รุ่น IZ-Ss S99T

ยางรถจักรยานยนต์สมรรถนะสูงภายใต้ชื่อรหัส S99T ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรถ Scooter ออโตเมติกขนาด 125 ซีซี – 350 ซีซี โดยเฉพาะ ตัวยางถูกพัฒนาประสิทธิภาพและถ่ายทอดเทคโนโลยีคอมปาวด์มาจากรุ่น Super Sport S99 ซึ่งเป็นยางสำหรับสปอร์ตไบค์ ออกมาเป็น S99T ที่เน้นการใช้งานแบบ Sport Touring และสามารถรองรับการขับขี่ตั้งแต่การใช้งานบนท้องถนนทั่วไป จนไปถึงการออกทริปทางไกลและวิ่งในความเร็วสูงสไตล์ Big Scooter ได้เป็นอย่างดี

  • ใช้เทคโนโลยีสูตรเนื้อยางคอมปาวด์คุณภาพสูง แบบ Soft-Medium เน้นความนุ่มนวลในการขับขี่ การยึดเกาะถนน โดยเฉพาะเวลาเปิดคันเร่งและการออกตัวแม้ในสถาพถนนเปียก ให้การส่งถ่ายกำลังจากเครื่องยนต์ผ่านตัวยางลงสู่ถนนสามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ทั้งยังช่วยให้ระยะเบรกสั้นลงเมื่อเทียบกับยางทั่วไป
  • พัฒนาโครงสร้างหน้ายางและแก้มยาง ด้วยการขยายพื้นที่ผิวหน้ายางในจุดที่สัมผัสถนน เพื่อเพิ่มสมรรถนะการเข้าโค้ง สร้างความแม่นยำ และความมั่นคงขณะขับขี่มากกว่าเดิม โครงสร้างแก้มยางยังถูกออกแบบให้มีความแข็งแรงสูง เพิ่มความสามารถในการดูดซับแรงกระแทกจากพื้นถนนได้อย่างดีเยี่ยม เหมาะสำหรับรถจักรยานยนต์แบบ Big Scooter โดยเฉพาะ
  • ลายดอกยางออกแบบมาให้ช่วยในการบังคับทิศทางเพื่อไม่ให้เกิดการลื่นไถลขณะรถตั้งตรง ลดระยะเบรกและป้องกันอาการเหินน้ำ ( Hydroplaning ) ลายดอกยางชุดเล็กสลับทิศทางบริเวณไหล่ยางเป็นตัวช่วยเพิ่มแรงตะกุยเพื่อตอบสนองอัตราเร่งในขณะเข้าโค้ง ร่องเล็กแบบต่อเนื่องที่หน้ายางช่วยเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่ เพิ่มประสิทธิภาพการยึดเกาะถนน และควบคุมระยะเบรกได้อย่างมั่นใจ ทั้งยังช่วยรีดน้ำที่ขังอยู่บนพื้นถนนได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้หน้ายางสัมผัสและยึดเกาะกับพื้นได้มากที่สุด

เตรียมตัวก่อนออกเดินทาง

หลังเปลี่ยนจากยางติดรถมารัดด้วย IZ-Ss S99T ขนาด หน้า 120/70-15 M/C 56S และหลัง 140/70-14 M/C 68S พร้อมมัดสัมภาระติดท้ายเป็นที่เรียบร้อย คอมเมนต์อย่างแรกจากครูพี่เบิร์ด บกบห. Fast Bikes Thailand Magazine และเจ้าของรายการ Fast Track Weekend Riding ที่คอยขับขี่ควบคุมดูแลทริปในครั้งนี้ด้วยคือ “โครงสร้างและเนื้อยางแบบ Soft-Medium ของยางรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อรถจักรยานยนต์เกียร์ Automatic แบบขยายรัศมีพูลเลย์ที่ไม่มีอัตราทดเกียร์แบบแมนนวล หรือเฟืองเกียร์มาคอยดึงเครื่องยนต์ด้วยเอนจิ้นเบรกในช่วงลดความเร็วโดยเฉพาะ จึงเน้นเพิ่มประสิทธิภาพของการเกาะถนนและเสริมสมรรถนะของระบบเบรกทั้งหน้า-หลัง ซึ่งมันจะทำได้ดีกว่ายางที่มีเนื้อแข็งทั้งเส้นแน่นอน แต่อยากให้เติมลมยางหน้ามากกว่าสเปกไว้ซัก 1 ปอนด์ เป็นหน้า 31 หลัง 33 PSI (หลังเติมตามสเปก)

ส่วนคันที่ซ้อนสองและมีของด้วยก็ให้ขัน Preload ขึ้นอย่างน้อย ๆ อีกสองคลิก Forza 350 ยางติดรถนั้นเป็น IRC อยู่แล้ว รถแจกแจงน้ำหนักมาให้หน้า-หลัง เกือบเท่า ๆ กัน ตัวรถยาวแต่วางองศาคอมาให้เลี้ยวง่าย หน้าไม่หนัก ถ้าเติมเผื่อไว้อีกซักปอนด์ รถก็จะยิ่งเลี้ยวง่ายและไวขึ้น แต่ยังนิ่ง เสถียร หน้าไม่กระพือเมื่อใช้ความเร็ว เพราะมีเนื้อยางกับโครงยางคอยซัพพอร์ต ยางเป็นแบบ All season ร้อนเร็ว ถึงเวลานี้จะเป็นช่วงหน้าหนาวอากาศ และถนนเย็น เนื้อยางจะยังมีความยืดหยุ่นไม่แข็ง และเกาะถนนดี ขี่ไปได้เลยไม่ต้องกังวล มันน่าจะให้ฟีลลิ่งดีกว่ายางติดรถเดิมแน่นอน แถมระยะเบรกจะสั้นลงด้วย”

เริ่มต้นออกเดินทาง

ออกจากปั๊ม PTT Station ปตท.อยุธยา-เอเชีย กม.62 ตอน 7 โมงเช้า เริ่มเดินทางสู่ อ.แม่สอด จ.ตาก ใช้เส้นทาง ชัยนาท-นครสวรรค์-พิษณุโลก-กำแพงเพชร โดยมีมาร์แซลคอยนำ-ปิดท้าย และดูแลในแต่ละกลุ่ม ช่วง 160 กม. แรกมุ่งหน้าสู่นครสวรรค์ ก่อนจะเลี้ยวซ้ายออกบายพาสเพื่อหยุดเติมน้ำมันที่ปตท. บ้านยางตาล การจราจรช่วงนี้ค่อนข้างมีรถเยอะ Forza 350 รอบต้นมาตึง ๆ อยู่แล้ว อย่างแรกที่สัมผัสได้เมื่อเทียบกับยางติดรถคือ รถวิ่งดีกว่าเดิม แม้ความเร็วที่ใช้จะอยู่ในช่วง 100-120 และสูงกว่านั้นเวลาเร่งแซงพร้อมกับสวิงรถเพื่อเปลี่ยนตามช่องจราจร ก็ยังรู้สึกว่าหน้ารถมีความนิ่ง เสถียรดี ไม่มีอาการกระพือให้เห็น ถึงด้านหน้าจะรู้สึกกระด้างเล็กน้อย แต่ก็เพิ่มความมั่นใจในการขับขี่ได้ดีมาก โดยเฉพาะเวลาเบรกที่รู้สึกว่าระยะเบรกนั้นสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด

สำหรับคันที่ซ้อนสอง โช้คหน้าเวลาเจอบั๊มหรือเบรกหนัก ๆ ไม่ยุบจนสุดช่วง เบรกหยุดได้อย่างมั่นใจถึงจะมีน้ำหนักคนซ้อนและสัมภาระเทมาที่ด้านหน้าด้วย โช้คหลังรู้สึกกระด้างนิดหน่อย มีสะเทือนมาถึงตัวคนซ้อนบ้าง แต่ที่ชัดเจนคือรถเลี้ยวได้คมและไวขึ้น ที่สำคัญรู้สึกว่าขอบยางทนต่อแรงกระแทกของน้ำหนักสู่พื้นถนน ยางหนึบกว่าเดิมมาก ขี่ได้มั่นใจขึ้น โดยเฉพาะในจังหวะเร่งแซงรู้สึกว่ายางตะกุยและเกาะถนนได้ดี พอรวมกับกำลังของ Forza 350 จึงรู้สึกว่าจับจังหวะง่าย รถแซงได้ขาด

ถึงจุดเติมน้ำมันปั๊มแรก ทำการวัดลมยางทันทีก็พบว่าแรงดันลมยางหน้าเพิ่มขึ้นมาอีก 1 ปอนด์ จาก 31 เป็น 32 PSI ส่วนล้อหลังก็เพิ่มจาก 33 เป็น 34.6 PSI เพราะรถเพิ่งวิ่งมาแต่สภาพอากาศมีความเย็น ไม่ร้อน เลยไม่ขยายมากซึ่งเป็นเรื่องปกติ หลังกินอาหารกลางวันที่ร้าน อ.กุ้งเผา ใกล้ถนนสายเอเชีย แม่สอด-แม่ระมาด พี่เบิร์ดและทีมงานเดินมาถามความรู้สึกพร้อมตรวจเช็ครถให้อีกเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะบอกว่า “ที่ให้เติมลมยางหน้าเผื่อไว้ 1 ปอนด์เพราะต้องการให้ความโค้งของยางมีโครงสร้างเต็มประสิทธิภาพ แรงดันลมยางที่เหมาะสมมันจะส่งผลให้วาล์วน้ำมัน และแผ่นชิมวาล์วของโช้คไม่กระพือ เวลาโช้คทำงานเต็มระบบขณะขับขี่โดยมีการเคลื่อนตัวของแกนด้วยความเร็วอาจรู้สึกกระด้างขึ้นเล็กน้อย แต่มันจะซับและกระจายแรงได้ดีขึ้น โดยไม่ทำให้ยางรับภาระหนักเกินไป”

มุ่งสู่แม่สอด-แม่สะเรียง-แม่ฮ่องสอน-บ้านรักไทย ดันขึ้นเขา โค้งยับ ๆ 4,088 โค้ง

ที่ผ่านมาแค่ออเดิร์ฟ แต่เส้นนี้แหละของจริง ยางกับรถจะไปไหวไหมตัดสินกันได้ตรงช่วงนี้เลย เพราะนอกจากจะมีโค้งเกือบทุกรูปแบบรวมกันมากถึง 4,088 โค้ง ยังเป็นทางดันขึ้นเขาลงเขา และมีผิวถนนที่ต่างกันออกไปในหลายช่วง บางช่วงเป็นลาดยาง แต่ช่วงก่อนขึ้นแม่สอดจะเป็นถนนคอนกรีตที่แข็ง คม และมีความกระด้างกว่าถนนลาดยางค่อนข้างมาก ตรงช่วงนี้รู้สึกว่าโช้คหน้ากระด้างขึ้นอีกเล็กน้อย แต่ยังทำงานได้ดีทั้งหน้า-หลัง รองรับน้ำหนัก ซับแรงกระแทกพร้อมกระจายแรงสะเทือนได้ดีมาก โดยที่หน้ารถยังคงนิ่ง เบาเลี้ยวง่ายและไม่มีอาการปลิ้นก่อนเข้าโค้งแม้ในความเร็วสูง

จังหวะเจอโค้งต่อเนื่องแล้วเข้าแบบเอียงตัวตามรถ ช่วงท้ายมีกระพือเล็กน้อย แต่พอถึงกลางโค้งยังสามารถเพิ่มความเร็วและเร่งออกมาได้อย่างมั่นใจทั้งช่วงขึ้นเขา-ลงเขา ตอนดันขึ้นรู้สึกว่ายางมีส่วนช่วยในการจิกและตะกรุยให้รถดันขึ้นไปอย่างมั่นใจ ยางเกาะดีขี่รอบสูงก็ดันขึ้นได้ยาว ๆ ตอนลงเอนจิ้นเบรกรถออโตแทบไม่มีอยู่แล้ว ต้องใช้เบรกเยอะ แต่ก็ยังไม่รู้สึกว่ายางหน้าปลิ้นหรือรับภาระหนักจนบิดและเสียโครงสร้าง แถมระยะเบรกก็สั้นลงกว่าที่คิดมากด้วย

วัดพระธาตุดอยกองมู และสะพานไม้แห่งศรัทธา “ซูตองเป้”


สำหรับการขี่ซ้อนสอง ถึงน้ำหนักจะกดมาด้านหน้ามากกว่าปกติในจังหวะใช้เบรกหน้าหนักๆ หรือไหลลงเขา แต่ยางหน้าก็ยังไม่ออกอาการ คงโครงสร้างความโค้งได้ดี เข้าเร็ว ๆ เอียงรถท้ายมีกระพือนิดหน่อย แต่โช้คหน้าทำงานเนียนดีเลย การใช้เบรกหน้า-หลัง ทั้งช่วงขึ้นและลงเขา รู้สึกว่าระยะเบรกสั้น ยางเกาะถนนดีเอียงรถได้ตามต้องการ หลังจากแตะเบรกหน้าพอกลางโค้งก็กลับมาเร่งรอบได้เลย ยางจิกโค้งหนึบดีไม่มีอาการสไลด์ ช่วงออกโค้งสามารถเร่งได้โดยที่รถยังไม่กลับมาตั้งตรงเต็มที่ได้เลย ช่วงขึ้นเขา Forza 350 มีกำลังดี พอเจอยางหนึบ ๆ ช่วยยิ่งไปได้ดีถึงยอดได้แบบไม่ต้องลุ้นถึงจะซ้อนสองและมีสัมภาระ

“บ้านรักไทย” หมู่บ้านในสายหมอก


พอถึงบ้านรักไทยหลังถ่ายรูปเป็นที่ระลึกเสร็จก็ได้บอกอาการตอนเข้าโค้งให้ พี่เบิร์ด และทีมงานฟัง แกเลยแนะนำว่า “อาการด้านหลังกระพือ แกว่ง ตอนเจอทางไม่เรียบ และก่อนเข้าโค้ง เกิดจากด้านหลังของรถนั้นออกแบบมาให้มีความสูงค่อนข้างเยอะ เรียกว่าท้ายโด่ง โช้คหลังยาว เพื่อให้คนซ้อนนั่งสบาย พอเรามีการมัดสัมภาระหรือมีคนซ้อน และแบกของด้วย น้ำหนักที่เพิ่มมามันก็ไปกดกันสะเทือนให้ทำงานมากขึ้น พอเราใช้ความเร็วและเข้าแบบ Lean with ไปกับรถ มันเลยไม่พอที่จะต้านแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ที่เกิดขึ้น ยิ่งมวลเยอะแรงเหวี่ยงก็ยิ่งเยอะตามอาการก็ยิ่งออก ลองเปลี่ยนสไตล์การเข้าโค้งใหม่ ด้วยการกดน้ำหนักตัวคนขี่และคนซ้อนเข้าด้านในโค้งช่วยด้วย รถเอียงแล้วคนขี่ต้องโหนทิ้งน้ำหนักตัวตามคือการเข้าแบบ Lean-in แต่ไม่ถึงกับ Hang On เหมือนที่เราขี่ในสนาม แก้มยางคอมปาวด์แบบ Soft แต่โครงยางมีความแข็งแรง เขาออกแบบมาเพื่อรองรับการเอียงรถอยู่แล้ว เราเคยขี่แต่รถสปอร์ต เคยฝึกขี่ในสนามมาแล้ว ไม่ต้องกลัว วันนี้มาขี่ออกทริปทางไกลขนาดนี้เป็นครั้งแรกด้วยรถออโตเมติก อาจจะยังไม่คุ้นเคย ลองเอียงรถเพิ่มขึ้นแล้วทิ้งน้ำหนักตัวเข้าด้านในเพิ่มขึ้นดูแล้วอาการที่เกิดขึ้นก็จะหายไป”

ปางอุ๋ง แม่ฮ่องสอน สวยมาก


พอเข้าวันที่ 3 ที่ต้องขี่จากบ้านรักไทยไปเชียงใหม่ โค้งยังเยอะเหมือนเดิม แต่พอเริ่มชินโค้งและเปลี่ยนสไตล์การขับขี่ตามที่บอก ทีนี้อาการกระพือ แกว่ง ท้ายบั๊มก่อนเข้าโค้ง หายไปจนหมดเลย มั่นใจแล้วเริ่มเอียงรถเยอะขึ้น ยาง IZ-Ss S99T ก็ยังเอาอยู่ กลายเป็นขี่สนุกขึ้นกว่าเดิมไปเลยทีนี้

วันสามไปแบบเนียน ๆ ขี่มั่นใจขึ้นเยอะ


สรุป

นี่เป็นครั้งแรกของพวกเราที่ได้ออกทริปขี่ทางไกล และเจอโค้งเยอะขนาดนี้โดยใช้รถบิ๊กสกู๊ตเตอร์ ต้องบอกว่าทั้ง Forza 350 และ ยาง IRC IZ-Ss S99T นั้นเอาอยู่ทำได้ดีเกินความคาดหมายมาก ได้เที่ยว ได้ขี่รถ ได้ปรับตัวและเรียนรู้ในสิ่งที่เราไม่คุ้นเคย จนขับขี่ได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ขากลับจากเชียงใหม่-กรุงเทพ เลยเป็นอะไรที่บิดเพลินและขี่สนุกขึ้นไปอีกแบบไม่อยากให้ทริปนี้จบเลย

เดินทางถึงกรุงเทพอย่างปลอดภัย 4,088 โค้ง ไป-กลับ 2,000 กว่ากิโลเมตร ยางยังกริบ ๆ


ขอบคุณ Thai Honda ยางรถจักรยานยนต์ IRC และกิจกรรม Fast Track Weekend Touring ที่ให้พวกเราได้มาเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ แบบนี้ คราวหน้าเจอ 10,000 โค้งก็ยังไหว สำหรับใครที่สนใจ กำลังต้องการเปลี่ยนยางใหม่ อยากได้ยางบิ๊กสกู๊ตเตอร์ที่ “ประสิทธิภาพถึงแต่ราคาพึ่งได้” บอกเลยว่าต้องลอง IRC IZ-Ss S99T ครับ ของเขาดีจริง ๆ !

สำหรับใครที่สนใจยางรถจักรยานยนต์ IRC จัดจำหน่ายโดย บริษัท สิทธิผล 1919 จำกัด

ติดต่อสอบถาม Hotline : 02-639-1919

หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ได้ที่ Facebook Page: IRC TIRE Thailand

Related